ไทยย้ำความปลอดภัยชายแดนกัมพูชา ครบ 72 ชั่วโมงปล่อยตัวทหารเขมร ICRC เป็นพยาน

วันนี้, 15:04น.


          หลังเสร็จสิ้นการหารือ 3 ฝ่ายกับนายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน และนายปรัก สุคน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชา ที่เมืองยวี่ซี มณฑลยูนนานของจีน  นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า ฝ่ายจีนเป็นเจ้าภาพการประชุมเป็นไปไปด้วยดี และสำหรับฝ่ายไทยก็ถือว่าบรรลุผลอย่างที่เราคาดหวัง บทบาทของจีนไม่ได้เข้ามาแทรกแซง แต่มาอำนวยความสะดวกให้เราได้มาเจอกัน ตรงไหนที่เขาสนับสนุนได้ ก็สนับสนุน แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับทั้งสองฝ่าย เพราะฉะนั้นการมาครั้งนี้ เป็นเพียงแต่อำนวยความสะดวกเรื่องของสถานที่ และอำนวยความสะดวกให้ได้มาเจอกัน ซึ่งไทยยืนยันท่าทีของเรามาตลอดว่า เรื่องความขัดแย้งไทย-กัมพูชา ต้องแก้ไขระหว่างสองประเทศ แม้ว่าประเทศที่สามจะมีความปรารถนาดีอย่างไรก็ตาม ในที่สุดแล้วเป็นเรื่องที่ทั้งสองประเทศต้องแก้ไขให้ได้



          ที่สำคัญคือเรามีข้อตกลงหยุดยิงแล้ว เราต้องการให้การหยุดยิงนั้นมีความยั่งยืน ความยั่งยืนในแง่ที่เราตกลงกันไว้ก็ปฏิบัติตามนั้น ไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในพื้นที่ ไม่ควรมีการชิงความได้เปรียบต่างๆ ไม่มีการยั่วยุ เพื่อสร้างความไว้เนื่อเชื่อใจระหว่างกัน รวมทั้งประเด็นที่เราให้ความสำคัญคือการเก็บกู้ทุ่นระเบิดทั้งหลาย ถ้าเราสามารถปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงเพื่อให้การหยุดยิงมีความยั่งยืน เราก็จะมาคุยกันเพื่อจะเดินหน้าต่อไปในเรื่องของความสัมพันธ์อย่างไร มันต้องเป็นไปอย่างเป็นขั้นเป็นตอน



          ขณะนี้ประเด็นที่สำคัญที่สุดและเราย้ำคือความจริงใจที่มีต่อกัน มันต้องพิสูจน์ด้วยการหยุดยิงที่ยั่งยืน หลังจากนั้นเราก็ต้องดำเนินการในเรื่องการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ตามชายแดน มีการพูดคุยกันโดยตรงถ้าเกิดมีเหตุการณ์อะไรที่จะนำไปสู่ความรุนแรง การเก็บกู้ทุ่นระเบิดอะไรต่างๆ



         ประเด็นคือเราต้องนำความปลอดภัย ความมั่นคงไปสู่ชายแดน ให้ประชาชนของทั้งสองฝั่งได้ชีวิตตามปกติ หลังจากนั้นเราก็คงต้องมานั่งดูกันว่าก้าวต่อไปจะเป็นอะไร จากการหยุดยิงขั้นต่อไปก็คือการลดการเผชิญหน้า ซึ่งก็คือการลดกำลังทหาร ไม่ใช่ลดฝ่ายเดียวแต่ลดทั้งสองฝ่าย ลดอาวุธหนัก ถอนอาวุธหนัก การเก็บกู้ทุ่นระเบิด ก็เป็นอีกขั้นที่เราต้องทำตามที่เราเคยตกลงกันไว้แล้ว เรื่องการปราบปรามขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติโดยเฉพาะขบวนการสแกมทั้งหลาย เพราะมันมีผลกระทบไม่ใช่แต่เฉพาะประเทศทั้งสองแต่มีผลกระทบไปยังประเทศและภูมิภาคอื่นด้วย



          ถ้าหยุดยิง 72 ชั่วโมงไม่มีปัญหาอะไร เราก็จะเริ่มขบวนการมอบทหารกัมพูชา 18 คนให้กับกัมพูชา ซึ่งจะดำเนินการโดยมีคณะกรรมการกาชาดสากล (ไอซีอาร์ซี) เป็นสักขีพยานด้วย เพื่อให้รับรองว่าระหว่างที่ทหารกัมพูชาอยู่ในการดูแลของฝ่ายไทยเขาได้รับการปฏิบัติอย่างดี จากนั้นก็ขอให้กัมพูชาพิจารณาเรื่องการอำนวยความสะดวกถ้าเกิดมีคนไทยติดค้างที่ปอยเปต ก็ขอให้อำนวยความสะดวกให้คนไทยได้เดินทางกลับมาได้โดยปลอดภัย



           หลังจากนี้จะมีแถลงข่าวร่วมซึ่งเป็นการสรุปผลของการประชุมและเป็นแนวทางที่เราจะเดินหน้าต่อไป เพราะเราไม่อยากจะให้เป็นการแถลงข่าวฝ่ายเดียว เราอยากจะให้สิ่งที่เราพูดเราแถลงตรงกัน เราจะได้เดินหน้ากัน ไม่ใช่แต่ละคนเอามาแถลงเพื่อสร้างความได้เปรียบของแต่ละฝ่าย เรื่องที่คุยทั้งสองฝ่ายและสามฝ่ายจะอยู่ในแถลงการณ์ร่วมดังกล่าว



          นายสีหศักดิ์ ระบุว่า เรื่องไทย-กัมพูชา ถึงแม้ที่ผ่านมาฝ่ายกัมพูชาพยายามใช้แรงกดดันจากประชาคมโลก แต่จุดยืนของเราคือเป็นเรื่องสองฝ่าย ในที่สุดก็คุยกันสองฝ่ายเรื่องการหยุดยิง



          ต่อไปนี้ก็เป็นสิ่งที่เราพูดกันสองฝ่าย เห็นว่าเรื่องของไทย-กัมพูชาขณะนี้มันมาถูกทางแล้ว แต่มันก็มีประเด็นที่เราจะต้องพูดคุยกัน เราก็ต้องทำต่อไป จีบีซีก็จะประชุมกัน หรือผมจะคุยกับรัฐมนตรีต่างประเทศเขาว่าเราจะรื้อฟื้นกันอย่างไรต่อไป แต่ทุกอย่างมันมีจังหวะเวลาของมัน



 



#ไทยเขมร



#จีนตัวกลางประสาน



#เขมรรุกรานไทย 

ข่าวทั้งหมด

X