กทม. เตรียมเสนอสภา กทม. ชะลอบังคับใช้ข้อบัญญัติหมาแมว พร้อมให้เวลาปรับตัวทุกฝ่าย

วันนี้, 18:59น.


        รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย น.สพ.ศิษฏพล เอี่ยมวิสูตร์ ผู้อำนวยการสำนักงานสัตวแพทย์สาธารณสุข และผู้แทนภาคีเครือข่าย ได้แก่ คุณโรเจอร์ โลหนันท์ สมาคมพิทักษ์สัตว์ไทย คุณชัญญา ผาสุพงษ์ สมาคมสงเคราะห์สัตว์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ และคุณฎายิน เพชรรัตน์ มูลนิธิ SOS Animal Thailand ร่วมแถลงข่าวชี้แจงรายละเอียดข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง การควบคุมการเลี้ยงหรือปล่อยสัตว์ พ.ศ. 2567 เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้แก่ประชาชน ณ ห้องเจ้าพระยา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) เขตพระนคร



          แม้ข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง การควบคุมการเลี้ยงหรือปล่อยสัตว์ พ.ศ. 2567 นั้นจะมีเจตนาที่ดีเพื่อดูแลสวัสดิภาพสัตว์และช่วยให้ประชาชนกับสัตว์เลี้ยงอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข แต่ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมาอาจมีการประชาสัมพันธ์ที่ยังไม่ทั่วถึง หรือการบริการของกรุงเทพมหานครยังไม่ทันกับความต้องการ หรือรายละเอียดบางอย่างอาจจะยากลำบาก ทำให้ประชาชนจำนวนมากรู้สึกเดือดร้อนและมองว่าขั้นตอนต่าง ๆ กลายเป็นภาระ



          กรุงเทพมหานครจึงต้องการปรับปรุงกระบวนการทำงานเพื่อให้ประชาชนสะดวกขึ้น พร้อมทั้งได้เตรียมเสนอญัตติต่อสภากรุงเทพมหานครเพื่อขอชะลอการบังคับใช้ข้อบัญญัติฯ ออกไปก่อน จากเดิมที่จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม 2569 เป็นต้นไป เพื่อให้กรุงเทพมหานครสามารถให้บริการได้ทันต่อความต้องการของภาคประชาชน โดยรายละเอียดการดำเนินการที่ผ่านมา น.สพ.ศิษฏพล จะเป็นผู้ให้ข้อมูลเพิ่มเติม



          ที่ผ่านมากรุงเทพมหานครได้รับเรื่องร้องเรียนผ่านระบบ Traffy Fondue เกี่ยวกับสุนัขและแมวเป็นจำนวนมาก โดยมีเรื่องร้องเรียนตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2565 - ธันวาคม 2567 จำนวน 8,568 เรื่อง ซึ่งเป็นเรื่องร้องเรียนประเภทเหตุเดือดร้อนรำคาญมากที่สุด อยู่ที่ 56.9% รองลงมาคือประเภทดุร้าย เสี่ยงเป็นอันตรายต่อคน 25% ข้อบัญญัติฯ ฉบับนี้ จึงเป็นมาตรการในการบริหารจัดการสัตว์เลี้ยงในพื้นที่กรุงเทพมหานครอย่างเป็นระบบ



          สาระสำคัญของข้อบัญญัติฯ เป็นการกำหนดบทบาทเจ้าของสัตว์เลี้ยงใน 4 เรื่อง ได้แก่ 1. การฉีดฝังไมโครชิปและจดทะเบียนสุนัขและแมวมีเจ้าของ 2. การจำกัดจำนวนสัตว์เลี้ยงตามขนาดพื้นที่ 3. การจัดการความสะอาดและสิ่งแวดล้อมให้ถูกสุขลักษณะ และ 4. การควบคุมสัตว์อันตรายเป็นพิเศษ ซึ่งกรุงเทพมหานครได้มีการเตรียมความพร้อมด้านต่าง ๆ ก่อนบังคับใช้ข้อบัญญัติฯ นี้



           โดยประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดทำร่างประกาศและคำสั่งที่เกี่ยวข้อง และจัดเตรียมระบบบริการจดทะเบียนออนไลน์ร่วมกับดำเนินการฉีดฝังไมโครชิปและจดทะเบียนสุนัขและแมวมีเจ้าของ ทั้งเชิงรับที่คลินิกสัตวแพทย์กรุงเทพมหานคร และเชิงรุกด้วยการออกหน่วยสัตวแพทย์เคลื่อนที่ ให้บริการหมุนเวียนในชุมชนพื้นที่กรุงเทพมหานคร 50 เขต รวมทั้งห้างสรรพสินค้า และงาน PET Expo ต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมความเข้าใจและให้บริการประชาชน



          ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครได้ดำเนินการฉีดฝังไมโครชิปและจดทะเบียนสุนัขตามข้อบัญญัติฯ 2548 ไปแล้ว 103,807 ตัว (ดำเนินการตั้งแต่ พ.ศ. 2550 - 2567) ในส่วนของการดำเนินการตามข้อบัญญัติฯ 2567 ที่เป็นการดำเนินการฉีดฝังไมโครชิปและจดทะเบียนทั้งสุนัขและแมวนั้น กรุงเทพมหานครได้มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยมีผลการดำเนินการฉีดฝังไมโครชิปและจดทะเบียนสุนัขและแมวในช่วงประมาณ 6 เดือน (ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน - 25 ธันวาคม 2568) รวม 36,912 ตัว แบ่งเป็นเชิงรับ 18,582 ตัว เชิงรุก 18,330 ตัว



          จุดบริการ One Stop Service จำนวน 10 แห่ง ประกอบด้วย



1. กลุ่มควบคุมโรคพิษสุนัขบ้า เขตดินเเดง (ศูนย์ใหญ่: ที่ทำการเขตดินเเดงเดิม)



2. คลินิกสัตวแพทย์กรุงเทพมหานคร สี่พระยา เขตบางรัก



3. คลินิกสัตวแพทย์กรุงเทพมหานคร มีนบุรี เขตมีนบุรี



4. คลินิกสัตวแพทย์กรุงเทพมหานคร วัดธาตุทอง เขตวัฒนา



5. สำนักงานเขตบางเขน



6. คลินิกสัตวแพทย์กรุงเทพมหานคร วัดหงส์รัตนาราม เขตบางกอกใหญ่



7. คลินิกสัตวแพทย์กรุงเทพมหานคร ช่วง นุชเนตร เขตจอมทอง



8. คลินิกสัตวแพทย์กรุงเทพมหานคร บางกอกน้อย เขตบางกอกน้อย



9. กลุ่มควบคุมการตรวจเนื้อสัตว์ฯ เขตหนองแขม



10. กลุ่มควบคุมและพักพิงสุนัขฯ เขตประเวศ



 



#ข้อบัญญัติหมาแมว



#กรุงเทพมหานคร

ข่าวทั้งหมด

X