ประชาธิปัตย์เปิดตัว 3 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี

          พรรคประชาธิปัตย์ปล่อยคลิปวิดีโอ เปิดตัว "คนทำเป็น" แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ทั้ง 3 คนอย่างเป็นทางการ ผ่านทางเว็บไซต์พรรคประชาธิปัตย์-Democrat Party, Thailand ซึ่งประกอบด้วย 

- นายอภิสิทธิ์ เป็นผู้ที่มีความซื่อสัตย์ โปร่งใส มีวินัยการคลัง ระบุว่า ทำอย่างไรให้ไทยหายจน พรรคประชาธิปัตย์ จึงเสนอผู้นำที่ทำเป็น เพื่อภารกิจยิ่งใหญ่ พาไทยหายจน ซึ่งต้องเริ่มต้นด้วยการสร้างการเมืองสุจริต สร้างความโปร่งใสทุกระบบ ถึงจะขจัดสิ้นทุกปัญหาเทา ๆ ที่คนไทยทน

- นายกรณ์ เคยได้รับรางวัลรัฐมนตรีคลังโลก ในวัย 44 ปี ระบุว่า ไทยหายจนเกิดขึ้นได้ในชีวิตจริง เราต้องเร่งทำงาน ปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ การแข่งขันต้องเป็นธรรม เชื่อมโลกอย่างทันโลก เกษตรกร SMEs ผู้ส่งออกทุกคน ต้องเติบโต และแนะนำผู้นำนักเทคโนโลยีเพื่ออนาคต

- นางการดี นักเทคโนโลยีเพื่ออนาคต ประสบการณ์กว่า 20 ปี เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจดิจิทัล ระบุว่า สร้างอนาคตไทยด้วยเศรษฐกิจ

โดยช่วงเช้าวันนี้  นายอภิสิทธิ์ พร้อมด้วยแกนนำพรรคฯ และผู้สมัคร สส.กทม. ทั้ง 33 เขต เดินทางไปไหว้ศาลหลักเมือง เพื่อความเป็นสิริมงคล และสร้างขวัญกำลังใจ ปลุกพลัง "กลุ่มกรุงเทพฯ ฟ้าใหม่" ก่อนยื่นใบสมัครในวันพรุ่งนี้ (27 ธ.ค.)

          นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ทั้ง 3 คน ไม่ได้เป็นผู้อาสามาเป็นนายกฯ แบบต่างคนต่างมา แต่มีที่มาเหมือนกันคือ ความคิด ตั้งใจ วิสัยทัศน์ และเคยทำงานร่วมกันมา ในสถานะและโอกาสต่างกัน ดังนั้นมั่นใจว่าแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคฯ มองอนาคตของประเทศที่อยากเห็นตรงกัน การทำงานกลมกลืนกัน ขณะที่นโยบายหาเสียงก็ช่วยกันทำมากับมือ

"เราไม่เปรียบเทียบแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคการเมืองอื่น แต่อธิบายให้เห็นว่า การคัดเลือกแคนดิเดตนายกฯ ทั้ง 3 คน ของพรรค อยากให้ประชาชนมั่นใจว่า กลมกลืน ยึดมั่นใจอุดมการณ์ และวิสัยทัศน์เดียวกัน" โดยจะระบุเป้าหมายที่ชี้วัดที่ประเมินเราได้หากมีโอกาสทำงาน เช่น ประกาศว่า 4 ปี เศรษฐกิจไทยโต 5% ลดหนี้สินของประชาชน จากเดิมที่มียอดหนี้ 80-90% ให้เหลือ 60% โดยทั้งหมดทำได้โดยการเมืองสุจริต หมายความว่าประเทศไทยไม่ถูกจัดอันดับในลำดับดัชนีความโปร่งใสที่ 107 แต่ต้องกลับมาติดอันดับในสมัยที่พวกเราทำงาน คือ ลำดับที่ 80" นายอภิสิทธิ์ กล่าว

          กรณีที่แกนนำพรรคกล้าธรรม ออกมาตอบโต้หลังประกาศไม่จับมือร่วมรัฐบาลนั้น นายอภิสิทธิ์ ยืนยันว่า ไม่ใช่วาทกรรม แต่เป็นความตั้งใจประกาศและทำจริง ไม่มีปัญหาอะไร และไม่ต้องการตอบโต้ ต่อความ สิ่งที่ตนประกาศ เป็นการแสดงจุดยืนของการสร้างบ้านเมืองสุจริต ที่ได้รับฟังจากประชาชนจำนวนมากที่ต้องการเห็นบ้านเมืองพ้นสภาพปัญหาในปัจจุบัน

          ส่วนโอกาสที่จะทำงานร่วมกับพรรคประชาชน หลังสนับสนุนคำประกาศของ ปชป.นั้น ก็ไม่ได้เป็นเรื่องเดียวกัน เป็นความพยายามตีความหรือยัดเยียด ทั้งที่ตนได้พูดชัดเจนที่สุดว่าเป็นห่วงเรื่องการแก้ไขกฎหมาย มาตรา 112 เนื่องจากพรรคต่าง ๆ ไม่มีใครพูด ยกเว้นเรื่องกฎหมายนิรโทษกรรม ทั้งที่เป็นกฎหมายคนละฉบับ

          วันนี้ สนใจอารมณ์ประชาชนมากกว่านักวิเคราะห์ หรือกูรูทางการเมือง ที่พยายามบอกว่า พูดแบบนี้จะเป็นเกมการเมือง เป็นแบบนั้น ผมพูดว่าเราอยากได้การเมืองสุจริต เห็นพรรคการเมืองบางพรรค ที่ไม่สามารถสร้างบ้านเมืองสุจริตได้ จึงต้องพูดแบบตรงไปตรงมา ใครอยากตีความอะไรก็ตีไป แต่ประชาชนอยากเห็นบ้านเมืองสุจริต