ในวันนี้ ธปท.นัดหารือกับผู้ค้าทองคำอีกครั้ง นายกฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก จำกัด เปิดเผยว่า ได้เตรียมยื่นข้อเสนอขอปรับเกณฑ์รายงานธุรกรรมจากรายวันเป็น 7-10 วัน ส่งให้ทาง ธปท. 1 ครั้งแทน พร้อมกับการคัดค้านและชี้แจงถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับการเก็บภาษี และนำเสนอการกำหนดกรองเพดานการซื้อขายเพื่อให้อยู่ในกรอบที่ผู้ประกอบการรับสภาพได้
สำหรับ มาตรการดูแลค่าเงินบาทแข็งของกระทรวงการคลัง ,ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ใน 3 มาตรการที่ประกาศออกมาเมื่อวันที่ 23 ธ.ค.68 ไม่เห็นด้วย อย่างยิ่งกับการที่ผู้นำองค์กรคิดอะไรไม่ออกแล้วบอกเก็บภาษี เพราะถือเป็นการทำร้ายอุตสาหกรรมและผู้บริโภคโดยตรง ในขณะที่ศูนย์กลางการเงินอย่างสิงคโปร์และฮ่องกงให้ความสำคัญและดึงดูดอุตสาหกรรมทองคำ แต่ไทยกลับใช้ระบบภาษีซึ่งอาจส่งผลเสียต่อตลาดในระยะยาวเช่นเดียวกับการเก็บมาตรการภาษีกำไรจากหุ้นที่จะออกมาก่อนหน้านี้
ส่วนการกำหนดเพดานวงเงินซื้อขายนั้นผู้ประกอบการเห็นด้วยเป็นบางส่วน แต่อยากให้มีการพูดคุยกันต่อว่าจะกำหนดเพดานที่เท่าไหร่ และมีจุดประสงค์เพื่ออะไร
ก่อนหน้านี้ นายวิทัย รัตนากร ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ระบุว่า หนึ่งในปัจจัยที่เราเห็นว่าเข้ามากระทบต่อค่าเงินบาทในวันนี้คือธุรกรรมทองคำ โดยผู้ค้าทองรายใหญ่ที่มีแพลตฟอร์ม 15 รายในไทยมีการซื้อขายทองรวมกันมีขนาดธุรกรรมมากว่า 50% ของ GDP นอกจากนี้ปริมาณการซื้อขายทองเฉลี่ยรายวันเมื่อเทียบกับหุ้นยังสูงกว่าอย่างเห็นได้ชัด โดยในปี 2568 พบว่ามูลค่าซื้อขายทองเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 65,937 ล้านบาท และสูงสุดถึง 255,566 ล้านบาท ขณะที่หุ้นมีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันสูงสุดอยู่ที่ 42,417 ล้านบาท และสูงสุดที่ 74,437 ล้านบาท”
ข่าวทั้งหมด