นางซัตสึกิ คาตายามะ รัฐมนตรีคลังญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ญี่ปุ่นพร้อมจะใช้มาตรการแทรกแซงตลาดแลกเปลี่ยนเงินตรา เพื่อช่วยพยุงค่าเงินเยน ภายใต้ข้อตกลงร่วมกับสหรัฐฯในเดือนก.ย.หลังพบเงินเยนอ่อนค่าต่อเนื่องมาอยู่ที่ 156 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ไม่สะท้อนพื้นฐานทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่น คาดว่าเป็นผลจากการเทขายเก็งกำไรของนักลงทุน
คำเตือนนี้ เกิดขึ้นหลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่น(BOJ)ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.25 มาอยู่ที่ร้อยละ 0.75 เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว(10 ธ.ค.) เป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกตั้งแต่เดือนมกราคม และเป็นอัตราดอกเบี้ยที่สูงที่สุด นับตั้งแต่ปี 2538 แต่ตลาดตีความคำแถลงของนายคาซูโอะ อูเอดะ ผู้ว่าการ BOJ ว่า BOJ จะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในการประชุมครั้งต่อๆไป ส่งผลให้เงินเยนอ่อนค่าลงมาแตะระดับ 156-157 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐฯ
ด้านนายฮิโรยูกิ มาชิดะ นักวิเคราะห์จากบริษัท ANZ คาดว่าในกรณีเงินเยนอ่อนค่าลงมาอยู่ที่ระดับ 158 เยนต่อดอลลาร์อาจจะทำให้ BOJ ต้องใช้มาตรการแทรกแซงตลาด เพื่อพยุงค่าเงินเยน พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า การอ่อนค่าครั้งล่าสุดของเยนเงินสะท้อนทั้งนโยบายการคลังเชิงกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล(เช่น ใช้จ่ายมาก เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ) แต่มาตรการนี้จะส่งผลให้เงินเฟ้อสูงขึ้นและนโยบายการเงินในเชิงผ่อนคลายของ BOJ (เช่น คงอัตราดอกเบี้ยต่ำ) แต่จะทำเงินไหลออกไปหาผลตอบแทนสูงกว่า
สำหรับเงินเยนที่อ่อนค่าเป็นปัญหาสำหรับผู้กำหนดนโยบายของญี่ปุ่น เนื่องจากทำให้ราคาสินค้านำเข้าและอัตราเงินเฟ้อสูงขึ้น อีกทั้งเพิ่มภาระค่าครองชีพของครัวเรือน ก่อนหน้านี้ ญี่ปุ่นเคยเข้าแทรกแซงตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราครั้งล่าสุดในเดือน กรกฎาคม 2567 โดยเข้าซื้อเงินเยนหลังเงินเยนร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 38 ปีที่ 161.96 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐ
#ญี่ปุ่น
#พร้อมแทรกแซง
#เงินเยนอ่อนค่าต่อเนื่อง
ที่มา: รอยเตอร์
ข่าวทั้งหมด