สหรัฐอเมริกา โดย Thomas Tommy Pigott หัวหน้ารองโฆษก กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์ต่อสถานการณ์การสู้รบที่ยังดำเนินอยู่ระหว่างกัมพูชาและประเทศไทย
สาระสำคัญของแถลงการณ์ ระบุว่า สหรัฐฯ เรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายยุติการสู้รบ ถอนอาวุธหนัก หยุดการวางกับระเบิด และ ปฏิบัติตามข้อตกลงสันติภาพกัวลาลัมเปอร์อย่างครบถ้วน ซึ่งรวมถึงกลไกเร่งรัดการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมและการแก้ไขประเด็นชายแดนผ่านกระบวนการที่ตกลงร่วมกัน
สหรัฐฯ ยังแสดงท่าทีสนับสนุนบทบาทของอาเซียนที่รวมพลังกันในสัปดาห์นี้ เพื่อผลักดันให้กัมพูชาและประเทศไทยปฏิบัติตามพันธกรณีระหว่างประเทศอย่างจริงจัง นำไปสู่การยุติความขัดแย้ง และลดความสูญเสียต่อชีวิตผู้บริสุทธิ์
ท่าทีดังกล่าวสะท้อนแรงกดดันจากประชาคมโลกที่คาดหวังให้ทุกฝ่าย เคารพสันติภาพ หลักมนุษยธรรม และกฎหมายระหว่างประเทศ เพราะความขัดแย้งไม่ควรถูกปล่อยให้ยืดเยื้อบนความเสี่ยงของชีวิตประชาชนและทหารแนวหน้า
ทางด้าน ศูนย์ปฏิบัติการภาคที่ 2 กองทัพบก รายงานสถานการณ์ ชายแดนไทย-กัมพูชา (วันนี้22ธ.ค.68)
ภาค ผามออีแดง - ห้วยตา มาเรีย : กองกําลังกัมพูชาดําเนินการประท้วงแบบสปอร์เรดิกโดยใช้ปืนยิงระเบิดและปืนใหญ่เบา เครื่องบินไร้คนขับถูกใช้ รวมถึงโดรนลาดตระเวนและโดรน FPV kamikaze กองกําลังของเราตอบโต้ด้วยการยิงระเบิดและยิงปืนใหญ่ตามแผนการรุกและทําการโจมตีทางอากาศเพื่อทําลายตําแหน่งที่เข้มแข็งของศัตรู
ช่องจอม - Chong Raye - Plod Tang ภาค: กองกําลังกัมพูชาได้ทําการโจมตีเป็นระยะ ๆ ด้วยอาวุธเบาและยิงระเบิดต่อตําแหน่งของเรา กองกําลังของเราตั้งตําแหน่งป้องกันตัวและนําโดรนไปวางกระสุนกับเป้าหมายที่ตั้งอยู่หน้าฐานชั้นสูงแก่งเมือง
ภาคช่องคณา: กองกําลังกัมพูชาเปิดการโจมตีเป็นระยะ ๆ โดยใช้ปืนยิงระเบิดและปืนใหญ่ กองกําลังของเราได้เสริมสร้างความมั่นคงในพื้นที่และใช้ปืนใหญ่ในการโจมตีเสาบัญชาการและตําแหน่งสนับสนุนดับเพลิงของกองกําลังกัมพูชาทางใต้ของช่องคณา
กองทัพภาคที่ 2 ยืนยันติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมนํามาตรการที่จําเป็นทั้งหมดมาใช้เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ และมั่นใจในความปลอดภัยของประชากรอย่างถึงขีดความสามารถ ประชาชนขอให้ติดตามข้อมูลที่เผยแพร่โดยเจ้าหน้าที่ทางการ และเพื่อให้มั่นใจในการดําเนินการของกองกําลังรักษาความปลอดภัย
#สหรัฐเปลี่ยนท่าที
#กองทัพภาคที่2
ข่าวทั้งหมด