*รอบวัน:โฆษกกลาโหม ยันพล.อ.ประวิตร ป่วยจริง ไม่มีเรื่องการเมือง/สหรัฐฯยินดีอสส.ฟ้องพล.ท.มนัส *

สรุปข่าว18.00น.

+++สถานการณ์ภัยแล้ง นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า แม้สถานการณ์กำลังเริ่มคลี่คลาย เพราะมีฝนตกหลายพื้นที่ แต่ยืนยันว่าลุ่มเจ้าพระยา ยังต้องติดตามใกล้ชิด โดยเฉพาะปริมาณน้ำฝน อย่างไรก็ตามขณะนี้จะระบายน้ำตามแผนที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติไว้ คือ 18 ล้าน ลูกบาศก์เมตรต่อวัน  สำหรับน้ำเพื่อเกษตรในกลุ่มของข้าวตั้งท้อง 1.2 ล้านไร่ จะส่งน้ำเข้าระบบชลประทาน ประมาณ 5 ล้านลบ.ม.ต่อวัน ทั้งนี้ไม่สามารถระบายเพิ่มได้อีก เพราะถ้าเพิ่มจะกระทบไม่มีน้ำกิน น้ำใช้ สำหรับการช่วยเหลือเกษตรกรใน 22 จังหวัดที่ประสบภัยแล้ง กรมชลประทาน ได้ปรับงบประมาณ จากงบปกติก้อนแรก 120 ล้านบาทจ้างแรงงานเกษตรกรในลุ่มเจ้าพระยา และเกลี่ยงบเงินกู้อีก1,600 ล้านบาทจ้างแรงงานทั่วประเทศ พร้อมกับได้ขอครม.เป็นเงินทุนสำรองหมุมเวียนอีก300 ล้านบาท รวมทั้งหมด2,020 ล้านบาทสามารถจ้างได้ทันทีในส่วนแรงงานก่อสร้าง อาคารและสถานีสูบน้ำ ในช่วง3-4 เดือนนี้เพราะขุดลอกทำความสะอาดคูคลองใช้เครื่องจักรกลไปแล้ว

+++ความคืบหน้าการประมูลข้าวเสียสต๊อกรัฐ ประมาณ 1.3 ล้านตัน พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) และผู้ที่เชี่ยวชาญลงพื้นที่สำรวจ เพื่อพิจารณาแนวทางการแยกข้าวดีที่อาจจะมีอยู่ในโกดัง ออกจากข้าวเสียก่อนการประมูล เพื่อให้ประเทศได้ประโยชน์สูงสุด แต่ต้องดูในเรื่องของความคุ้มค่าด้วย ทำให้การประมูลข้าวเสียครั้งแรกอาจจะไม่ทันภายในเดือนนี้ ดังนั้นคงจะเลื่อนไปเป็นต้นเดือนหน้าแทน  พร้อมทั้งเร่งเดินหน้าพัฒนาอุตสาหกรรมเกษตรอินทรีย์ และยกระดับผู้ประกอบการเกษตรอินทรีย์ไทยให้มีขีดความสามารถการแข่งขันในตลาดโลก ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งในการเพิ่มอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในอนาคต เนื่องจากผู้บริโภคทั่วโลกหันมานิยมอาหารเพื่อสุขภาพ และใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น จากการวิจัยทั่วโลกพบว่า มีผู้ประกอบการเกษตรอินทรีย์ 1.8 ล้านคน คิดเป็นพื้นที่ 230 ล้านไร่  

+++พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม  กล่าวถึง การลาป่วยของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่า ไม่มีนัยทางการเมือง แม้ว่าจะมีกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.)และการจัดทำบัญชีโยกย้ายนายทหารชั้นนายพล รวมถึงการประชุมสำคัญๆ ยืนยันไม่ใช่เพราะปัญหาการเมือง แต่เป็นปัญหาเรื่องสุขภาพ เนื่องจากมีอาการป่วยและเป็นไข้หวัด แพทย์ได้มาตรวจอาการที่บ้านพัก และให้หยุดพักผ่อนที่บ้านจนกว่าจะหายดี ไม่ได้เป็นการหลบหนีการวิ่งเต้นของบุคคลใดจากการมาขอตำแหน่งในช่วงปรับ ครม.และช่วงจัดทำโผทหาร รวมถึงไม่ได้มีความขัดแย้ง หรือไม่พอใจใครตามที่มีกระแสข่าว และคาดว่าจะกลับมาทำงานตามปกติได้ในอาทิตย์หน้านี้

+++การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เร่งรัดให้เดินหน้าการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ด้านคมนาคมขนส่งระบบรางให้เร็วยิ่งขึ้น เพราะขณะนี้ยังติดปัญหาในเรื่องของ TOR  ที่ยังทำไม่ได้ ดังนั้นต้องสร้างความเข้าใจให้กับประชาชน  ในเดือนตุลาคม จะต้องเริ่มเดินหน้าโครงการรถไฟรางคู่ไทย-จีนให้ได้ ยืนยันว่าโครงการนี้จะต้องดำเนินการให้ได้ เพราะเป็นสิ่งที่ได้ไปตกลงสัญญาไว้ว่าจะเป็นรถไฟประวัติศาสตร์ไทย-จีน

+++พล.ท.ชาตอุดม ติตถะสิริ โฆษกกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2559 เปิดเผยว่า กรรมาธิการฯ พิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ ผ่านไปแล้วรวม 18 กระทรวง 302 หน่วยงาน หรือร้อยละ 76 มีการปรับลดวงเงิน 9,754 ล้านบาทเศษ จากงบดำเนินงาน และงบลงทุน โดยไม่รวมยอดของกระทรวงศึกษาธิการ คาดว่ายอดปรับลดประมาณ 15,000 ล้านบาท

+++โฆษกคณะกรรมาธิการฯ กล่าวว่า งบประมาณของกระทรวงกลาโหมในปีนี้ มีการเพิ่มงบประมาณตามสิทธิกำลังพลและค่าตอบแทน ปรับปรุงสภาพยุทโธปกรณ์เพื่อพร้อมในการใช้งาน และพร้อมในการซ้อมรบ โดยเพิ่มจากปีที่ผ่านมาประมาณ กว่า 1 หมื่นล้านบาท เพราะเพิ่มเบี้ยเลี้ยงในทหารกองประจำการและทหารพราน ยืนยันไม่มีการจัดสรรงบประมาณในการจัดซื้อเรือดำน้ำของกองทัพเรือ ในงบประมาณปี 2559  คณะกรรมาธิการฯได้ตั้งข้อสังเกตการให้บริการของกระทรวงสาธารณสุขและการป้องกันโรคระบาดต่าง ๆ ให้ดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่กระทรวงศึกษาธิการ ได้ให้ความสำคัญในการปรับปรุงเรื่องโครงสร้างการศึกษาของประเทศ โดยเฉพาะการศึกษาขั้นพื้นฐานและการศึกษาในระดับอุดมศึกษา ซึ่งจะต้องบูรณาการร่วมกับอาชีวะศึกษา ส่วนกระทรวงยุติธรรมได้เน้นย้ำการดำเนินการกระบวนการยุติธรรมให้รวดเร็วขึ้น

+++หุ้นไทย ปิดส่งท้ายสัปดาห์  ลดลง 6.58จุด ดัชนีอยู่ที่1,438.08จุด มูลค่าซื้อขาย2.8หมื่นล้านบาท ตลาดหุ้นวันนี้แกว่งตัวลง จากความกังวลเศรษฐกิจ และราคาน้ำมันปรับตัวลงกดดันแรงขายหุ้นพลังงาน และปิโตรเคมี ออกมา ประกอบกับเงินบาทอ่อน กระตุ้นแรงขายต่างประเทศ

+++การลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ ดัชนีนิเคอิ ตลาดหุ้นโตเกียว ของญี่ปุ่น ลดลง 139.42 จุด 20,544.53 จุด ส่วนฮั่งเสง ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 270.34 จุด ปิดที่ 25,128.51 จุด  

+++บรรยากาศร้านทองคำย่านเยาวราชตลอดทั้งวันนี้เป็นไปอย่างคึกคัก หลังจากราคาทองคำลดลงต่ำกว่าบาทละ 18,000 บาท ทำให้มีประชาชนมาเข้าแถวเพื่อรอซื้อ โดยเฉพาะทองแท่งที่มียอดซื้อคึกคักมาก ทั้งที่ซื้อเพื่อเก็งกำไรระยะสั้น เพราะเชื่อว่าราคาทองปรับลดลงมาถึงจุดต่ำสุดแล้ว และน่าจะฟื้นตัวได้เร็ว และซื้อเพื่อการออมระยะยาว ทองคำแท่งรับซื้อ 17,900 บาท ขายออก 18,000 บาท ราคาทองยังอยู่ในช่วงขาลง จากกรณีธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้ ทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐฯ กลับมาแข็งค่า ประกอบกับกองทุนทองคำขนาดใหญ่ลดการถือครองทองคำลงต่ำสุดในรอบ 7 ปี ประกอบกับแรงซื้อจากจีนและอินเดียลดลง เพราะภาวะเศรษฐกิจไม่ดี โดยแนะนำให้ลงทุนระยะสั้นเท่านั้น

+++กรณีที่อัยการสูงสุดมีคำสั่งฟ้อง พล.ท.มนัส คงแป้น ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ กองทัพบก กับพวก รวม 72 คน ในคดีค้ามนุษย์ชาวโรฮิงญา น.ส.เมลิสซ่า สวีนีย์ โฆษกสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำประเทศไทย กล่าวว่า สหรัฐฯ ยินดีต่อการตัดสินดังกล่าว และขอเรียกร้องให้ทุกประเทศ สืบสวนคดีที่มีความเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการกระทำโดยบุคคล หรือเป็นขบวนการก็ตาม โฆษกสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำประเทศไทย กล่าวว่า  การแก้ปัญหาการค้ามนุษย์อย่างยั่งยืน ต้องมีความพยายามและความมุ่งมั่นในระยะยาว สหรัฐฯ จึงขอเรียกร้องให้ไทยมีมาตรการที่เข้มงวดต่อไปในการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ รวมถึงความพยายามลงโทษผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมและดำเนินคดี โดยการดำเนินการแก้ปัญหาค้ามนุษย์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นหลังวันที่ 1 เมษายน 2558 เป็นต้นมา กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯจะได้นำไปประกอบการประเมินรายงานการค้ามนุษย์ในปีหน้าต่อไป

+++พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผู้ช่วย ผบ.ตร.) และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.)ร่วมสอบปากคำ น.ส.อุรชา วชิรกุลฑล เจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด โบรกเกอร์สาว บริษัทหลักทรัพย์เออีซีเอส เกี่ยวกับการได้รับโอนหุ้นจากนายชูวงษ์  ก่อนเปิดเผยว่า น.ส.อุรชา รู้จักกับนายชูวงษ์ ตั้งแต่เดือนมีนาคม ขณะนั้นมี พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ อยู่ด้วย ส่วนความสัมพันธ์ระหว่าง นายชูวงษ์ กับ น.ส.อุรชา  มีความสนิทสนมกันเป็นพิเศษ ซึ่งวันที่นายชูวงษ์เสียชีวิต ก็มีบุคคลหนึ่งโทรศัพท์มาแจ้งให้ทราบเท่านั้น  น.ส.อุรชาให้ข้อมูลว่า ได้รับหุ้นมามูลค่า 30 กว่าล้านบาท แต่ไม่รู้ว่าจำนวนหุ้นจริงๆว่ามีจำนวนเท่าใด ต้องรอเอกสารยืนยัน ส่วนที่พบว่ามีการโอนหุ้นไปในชื่อของมารดา เนื่องจาก น.ส.อุรชา ใช้บัญชีธนาคารของมารดาในการรับโอน ซื้อ-ขายหุ้นมาโดยตลอด โดยหลังจากที่รับโอนหุ้นมาแล้ว ก็ได้ขายหุ้นส่วนหนึ่งไปในตลาดหลักทรัพย์ เพื่อนำเงินมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน  การตรวจสอบการโอนหุ้นของนายชูวงษ์ให้ทั้งน.ส.กัญฐณา ศิวาธนพล ที่เข้าให้ปากคำเมื่อวานนี้  และ น.ส.อุรชา กับแม่ ที่มาให้ปากคำวันนี้ เป็นคนละกลุ่มกัน สอดคล้องกับคำให้การของบุคคลทั้งสองว่า ไม่รู้จักกันมาก่อน

+++ หลังจากนี้ เจ้าหน้าที่ ต้องให้ น.ส.อุรชา นำเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องมามอบให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ พร้อมกันนี้เจ้าหน้าที่ก็เตรียมตรวจสอบเส้นทางการเงินว่า น.ส.อุรชา ได้ใช้จ่ายตามที่ให้การไว้กับเจ้าหน้าที่หรือไม่

+++สำนักข่าวยอนฮับ รายงานอ้างกระทรวงสาธารณสุขของเกาหลีใต้ว่า รัฐบาลอาจจะแถลงการณ์สิ้นสุดการแพร่ระบาดของไวรัสเมอร์สในช่วงต้นสัปดาห์หน้า หลังไม่มีคนไข้รายใหม่ 19 วันติดกัน ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตยังคงอยู่เท่าเดิมคือ 36 ศพ รัฐบาลจะจัดประชุมนัดพิเศษต้นสัปดาห์หน้าเพื่อหารือเรื่องนี้ หลังการประชุมอาจจะแถลงว่าขณะนี้เกาหลีใต้ปลอดจากผู้ติดเชื้อเมอร์ส

CR:แฟ้มภาพ