หลังการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) นายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เปิดเผยผลการประชุมว่า ประเด็นแรกคือการช่วยเหลือคนไทยที่ตกค้างที่ปอยเปตในกัมพูชา ประมาณ 3-4 พันคน ได้มีมติมอบให้กระทรวงการต่างประเทศไปดำเนินการประสานที่จะหาทางนำคนไทยกลับทางเครื่องบินพาณิชย์ โดยมีระบบการยืมเงินและการเช่าเหมาลำที่จะพาคนไทยกลับประเทศไทย
ประเด็นสอง เรื่องของการเยียวยา ผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต เนื่องจากที่ผ่านมาได้มีหลักเกณฑ์ชัดเจนอยู่แล้วอย่างที่ทราบกัน ก็จะมีการประมวลรวบรวมผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตล่าสุดนำเสนอคณะรัฐมนตรี จะมีเงินเยียวยาเพิ่มเติมนอกเหนือจากที่เคยอนุมัติก่อนหน้านั้นแล้วให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ล่าสุด ก็เป็นการดูแลอย่างต่อเนื่อง
เรื่องที่สาม การสกัดกั้นการส่งน้ำมันและยุทธปัจจัยทางทะเล มีมติมอบให้ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) เป็นหน่วยรับผิดชอบหลักในการประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการ ตั้งแต่การแจ้งให้กับเรือไทยที่จะเข้าไปในพื้นที่เสี่ยงได้รับทราบ รวมถึงประสานกับกรมเจ้าท่า ในการตรวจเรือขนส่งสินค้าไทยที่จะเดินทางไปยังกัมพูชา เพื่อไม่ให้เอื้อต่อการดำเนินการ
ส่วนเครื่องของยุทธภัณฑ์ก็ได้มอบหมายให้กระทรวงกลาโหม ที่จะกำหนดสินค้าที่จะควบคุมในการส่งไปยังกัมพูชา โดยเฉพาะสินค้ายุทธภัณฑ์ในยุทธปัจจัยต่าง ๆ ยึดถือตามพระราชกำหนดการควบคุมสินค้าตามแนวชายแดน พ.ศ. 2524 เป็นกรอบในการดำเนินการ
เมื่อถามรายละเอียดการจะนำคนไทยที่ติดอยู่ในกัมพูชากลับจากปอยเปตโดยเครื่องบินจะทำอย่างไรบ้าง นายฉัตรชัยกล่าวว่า ที่เสียมเรียบจะมีสนามบินอยู่ ซึ่งจะใช้เป็นหลัก ก็จะใช้การเช่าเหมาลำเครื่องบินให้ไปรับคนไทยกลับ ซึ่งมีระบบของกระทรวงการคลังในการยืมเงินทดรองในการซื้อตั๋วให้กับคนที่จะเดินทางกลับ
เมื่อถามต่อว่าจะเริ่มได้เร็วสุดเมื่อไหร่ นายฉัตรชัยกล่าวว่าได้มีการมอบหมายกระทรวงการต่างประเทศไปแล้ว ก็จะทำให้เร็วที่สุด
#เขมรรุกราน
#ไทยเข้มส่งออกยุทธปัจจัย
ข่าวทั้งหมด