นายมงคล สุขเจริญคณา ประธานสมาคมการประมงแห่งประเทศไทยให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยูจส. 100 กล่าวถึง การประกาศห้ามเดินเรือในอ่าวไทย ว่า ไม่มีผลกระทบต่อชาวประมงอย่างแน่นอนถึงจะกระทบบ้างก็เป็นส่วนน้อยมาก เพราะชาวประมงสามารถไปทำประมงที่แหล่งอื่นได้ เพราะที่ผ่านมาทางสมาคม ได้ร่วมงานกับกองทัพเรือ มาเกือบ 30 ปี ซึ่งมีการส่งข่าวกันตลอดเวลา ตอนนี้ย้ายการทำประมงจากพื้นที่เสี่ยง เพราะไม่รู้ว่ากระสุนของกัมพูชาจะมาไกลแค่ไหน ไม่ปัญหาในการทำมาหากิน เพียงแค่ขยับพื้นที่เท่านั้น เพราะทะเลพื้นที่กว้างใหญ่ ไม่น่าจะมีปัญหา
ส่วนกระสุนจาก BM 21 ถึงแม้จะยิงได้ไกลถึง 30 กม. แต่พอในทะเลแค่ประมาณ 10 ไมค์ทะเล เท่านั้นเอง ถือว่าไม่ไกลมากถ้าเทียบในทะเล คนที่ได้รับผลกระทบน่าจะเป็นประมงในพื้นที่ หรือประมงขนาดเล็กอาจจะไปหาปลาไม่ได้ แต่ประมงขนาดใหญ่ เขาแค่ย้ายพื้นที่เท่านั้น การทำประมงนั้นสามารถไปทำประมงได้ทุกพื้นที่ เช่นประมงตราด ก็สามารถไปทำประมงที่ ชุมพร ภูเก็ตได้ด้วย ถ้าเรือทนสภาพกับคลื่นลมแรงได้ ทำประมงเสร็จก็กลับมากัน ส่วนใหญ่ก็ทำกันแบบนี้ และยืนยันว่าไม่มีการปิดอ่าวไทย แต่ปิดแค่พื้นที่เสี่ยงแค่ประมาณ 3-4 อำเภอเท่านั้น ส่วนพี่น้องชาวประมงปลอดภัยดี
ก่อนหน้านี้ทางกองทัพมีการร้องขออวน ทางสมาคม ได้ระดมอวนให้ไปแล้ว 10 คันรถ ที่ส่งไปช่วยในกองทัพภาคที่ 1 และ ภาค 2 อวนที่ให้ไปเป็นอวนเก่า ไม่ได้ใช้งานแล้ว แต่อวนเก่าถือว่าขลังดี สามารถดักโดรนได้ แต่ตอนนี้ที่อยากได้ คืออวนประมงพื้นบ้าน เพราะ น้ำหนักเบา มีความไว โดยเฉพาะอวน ตาถี่ป้องกันแรงกระแทก และป้องกันการหลุดรอด เวลาใช้ก็เหวี่ยงแห หรือเอาไปขึงป้องกันโดรนพลีชีพ ไปคลุมหลังคา พอโดรนมันตกลงมา มันก็ไม่ระเบิด ไอเดียการใช้อวนไปดักโดรน มาจาก พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ และกองทัพเรือ พอสมาคมปชส.เรื่องขออวนไป ทางภาคใต้ก็ส่งมาให้ พอได้มา ก็แจ้งทางกองทัพไป ทางกองทัพก็มารับถึงที่แล้ว ซึ่งทราบว่าตกโดรนไปได้หลายตัว ที่สำคัญต้นทุนต่ำ หาง่ายใช้ประโยชน์ได้ และทางสมาคมฯ ยังช่วยเป็นตาเป็นสับปะรดให้กองทัพเรือในสอดส่องการขนน้ำมันเถื่อน เพราะทราบว่าตอนนี้กำลังติดตามเรือของคนไทย ที่ไปรับน้ำมันเถื่อนจากสิงคโปร์ แล้วไปส่งที่กัมพูชาด้วย
#ห้ามเดินเรือในอ่าวไทย
#บริจาคอวนให้กองทัพ
ข่าวทั้งหมด