รายงานจากกองทัพภาคที่ 2 ได้สรุปสถานการณ์แนวรบชายแดนไทย-กัมพูชา วันที่ 15 ธ.ค.68 โดยกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามายังฝ่ายไทย ตั้งแต่เวลา 02.13-22.00 น.
ชายแดนด้านจังหวัดอุบลราชธานี แนวรบช่องบก สถานการณ์ส่วนใหญ่ปกติตลอดทั้งวัน มีเพียงการตรวจพบโดรนของฝ่ายตรงข้ามเป็นระยะในช่วงเย็นและค่ำ ซึ่งฝ่ายเราใช้การลาดตระเวนทางอากาศและเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ไม่พบการปะทะขนาดใหญ่
แนวรบช่องอานม้า เป็นพื้นที่การรบเข้มข้นอีกจุดหนึ่ง ฝ่ายเราเปิดปฏิบัติการเชิงรุกต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเข้าตีและเคลียร์ที่หมาย ทั้งสองฝ่ายมีการปะทะด้วยปืนเล็กยาว/ปืนใหญ่/ปืน ทค.อย่างต่อเนื่อง ฝ่ายเราสามารถเข้าควบคุมที่หมายได้ตามแผน และวางกำลังเสริมความมั่นคง
ชายแดนจังหวัดศรีสะเกษ แนวรบพื้นที่ซำแต-โดนตรวล-ภูผี-สัตตะโสม-พนมประสิทธิโส-ช่องตาเฒ่า มีการข่าวรายงานว่าฝ่ายกัมพูชาอนุมัติให้ยิง RM-70 โดยเป้าหมายคือผามออีแดง สระตราว ตามาเรีย ภูมะเขือ ฝ่ายเราได้ทำลายโรงจอดรถ 12 คัน ของกัมพูชา บริเวณแยกสวายจรุม ทำให้ไฟลุกไหม้และมีเสียงระเบิดดังหลายครั้ง นอกจากนี้ ฝ่ายเราได้ใช้ F-16 ทิ้งระเบิดที่ทำหารกองพันสนันสนุน 371 (พัน.สสน.371) และยิงทำลายที่ทำการตำรวจตระเวนชายแดน 795 ของฝากกัมพูชา (ทก.พัน.ตชด.795) ได้รับความเสียหาย 80%
แนวรบพื้นที่ผามออีแดง-ห้วยตามาเรีย ทั้งสองฝ่ายมีการปะทะเป็นระยะๆ ด้วยปืนเล็กยางประปราย
แนวรบภูมะเขือ-โดนเอาว์ ไทยสามารถทำลายเสาสัญญาณของฝ่ายทหารกัมพูชา บริเวณช่องโดนเอาว์ และยังคงมีการปะทะด้วยปืนเล็กยาวประปราย ฝ่ายไทยใช้ปืนใหญ่ยิงต่อต้านปืนใหญ่กัมพูชาเป็นห้วงๆโดยช่วงเย็นไทยได้ตรวจพบโดรนจำนวนมากบินหลายพื้นที่ สะท้อนถึงความพยายามของกัมพูชาในการลาดตระเวนและกดดันทางอากาศ
แนวรบช่องสะงำ ไม่มีการสู้รบ สถานการณ์เฝ้าระวัง ชายแดนจังหวัดสุรินทร์ แนวรบช่องจอม-ช่องเปรอ-ช่องระยะ ฝ่ายไทยดำเนินกลยุทธ์เชิงรุก ใช้การยิงข่มและการยิงทำลายเป้าหมายสำคัญของ กพช.อย่างต่อเนื่อง เข้าควบคุมที่หมายในพื้นที่ช่องระยีได้สมบูรณ์ พร้อมเสริมความมั่นคงที่ตั้ง
ไทยมีการใช้โดรนทิ้งระเบิด และยิงปืนใหญ่ทำลายที่ตั้งทหารกัมพูชาและจุดต้องสงสัยหลายแห่ง โดยประเมินว่าฝ่ายตรงข้ามได้รับความเสียหายสูง
แนวรบพื้นที่คนา ฝ่ายไทยสามารถทำการยึดที่หมายและควบคุมพื้นที่ พร้อมทั้งทำการเสริมความมั่นคง ได้แล้ว
แนวรบพื้นที่ตาควาย ทหารกัมูชามีการยิงปืนกล และ BM-21 อย่างต่อเนื่องและหนาแน่น นอกจากนี้ ทหารกัมพูชายังได้ยิง BM-21 โจมตีพื้นที่ปราสาทตาควายและเนิน 350 และยิง BM-21 ใส่ฐานทหาร และทหารกัมพูชายังคงใช้โดรน FPV บินโจมตีฐานทหารและบริเวณปราสาทตาควายหลายครั้งซึ่งฝ่ายไทยสามารถยึดที่หมายสำคัญ และควบคุมพื้นที่ได้ พร้อมทำการเสริมความมั่นคงอย่างเร่งด่วน
แนวรบช่องกร่าง ทั้งสองฝ่ายมีการยิงปืนใหญ่เป็นห้วงๆ มีกระสุน BM-21 ตกในพื้นที่ช่องกร่าง และพื้นที่ 255 นอกจากนี้ ทหารกัมพูชายิงได้ BM-21 ขึ้นมาจากด้านทิศใต้ช่องกร่าง ลงพื้นที่ช่องเสม็ดและปราสาทตาเมือน ซึ่งฝ่ายไทยได้เข้ารุกยึดครองปราสาทตาควาย และสถาปนาความมั่นคง แม้จะมีการยึดครอง แต่ปราสาทตาควาย ยังคงมีการสู้รบและถูกโจมตีอย่างหนักจากกัมพูชาด้วยอาวุธหนัก BM-21 อย่างต่อเนื่องและหนาแน่น
แนวรบพื้นที่ตาเมือนธม ช่วงเช้ามืดตรวจพบความเคลื่อนไหวของรถยนต์ฝ่ายตรงข้ามและมีการใช้อาวุธวิถีโค้งยิงใส่ฝ่ายเรา ฝ่ายเราทำการยิงโต้ตอบจนกัมพูชาหยุดยิง
ชายแดนจังหวัดบุรีรัมย์ แนวรบช่องสายตะกู ปรากฏมีการยิงตอบโต้กันด้วยปืน ค.และปืนเล็กยาว ประปราย มีการยิงตอบโต้ด้วย ปืน ค.และปืนใหญ่อย่างหนาแน่นเวลา
โดยสรุป สถานการณ์ตามแนวชายแดนมีลักษณะ การปะทะเป็นช่วงๆ ในพื้นที่สำคัญ โดยเฉพาะพื้นที่ตาควายและช่องอานม้า ฝ่ายตรงข้ามพึ่งพาจรวดหลายลำกล้อง BM-21, ปืนใหญ่, เครื่องยิงลูกระเบิด และโดรน FPV อย่างชัดเจน ขณะที่ฝ่ายไทยเน้นการรุกเชิงระบบ ใช้ปืนใหญ่และการเข้าตีภาคพื้น ใช้โดรนทิ้งระเบิดเพื่อทำลายที่ตั้งและโครงสร้างการสื่อสารของฝ่ายตรงข้าม
ผลการปฏิบัติภาพรวมถือว่าฝ่ายไทยสามารถควบคุมพื้นที่เป้าหมายสำคัญได้หลายจุด, ลดขีดความสามารถในการสั่งการและการยิงของฝ่ายตรงข้ามได้อย่างมีนัยสำคัญ ขวัญกำลังพลโดยรวมยังอยู่ในเกณฑ์ดี สถานการณ์ช่วงค่ำหลายพื้นที่กลับสู่ภาวะปกติ แต่ยังต้องเฝ้าระวังภัยจากโดรนและการยิงระยะไกลอย่างต่อเนื่องในระยะต่อไป
#เขมรรุกรานไทย
ข่าวทั้งหมด