สรุปสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ทหารไทยยึดตัวปราสาทตาควายได้100%

วันนี้, 19:00น.


          15 ธันวาคม 2568 เวลา 16.00 น. พลเรือตรี สุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วยผู้แทนจาก กรมศิลปากร กระทรวงการต่างประเทศ ตำรวจ กองทัพบก กองทัพอากาศ และกองทัพเรือ ร่วมแถลงสรุปสถานการณ์ความขัดแย้งบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ยังคงมีความตึงเครียดและมีการปะทะกันอย่างต่อเนื่อง



          พลเรือตรี สุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม ไล่ไทม์ไลน์ระบุว่า



          06.43 น. ฝ่ายกัมพูชา เปิดฉากระดมยิงอาวุธหนักเข้ามาในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดสุรินทร์ จังหวัดศรีสะเกษ ทำให้ฝ่ายไทยจำเป็นต้องตอบโต้เพื่อป้องกันตนเอง



          อำเภอขุนหาญ อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ ออกคำสั่งขอให้ประชาชนอพยพ เนื่องจากฝ่ายกัมพูชา ตั้งใจโจมตีเป้าหมายพลเรือน



          12:00 น. ฝ่ายไทย สามารถผลักดันทหารกัมพูชาออกจากตัวประสาทตาควาย ซึ่งอยู่ในดินแดนและอธิปไตยของไทยได้สำเร็จ



          วันนี้ กัมพูชาปล่อย 2 เฟกนิวส์ หลอกคนกัมพูชา คือ



          เฟกนิวส์  : ทหารกัมพูชา ยังควบคุมพื้นที่ปราสาทตาควายได้อยู่ / ความจริง : ปัจจุบันฝ่ายไทย ยึดตัวปราสาทตาควายได้ 100%



          เฟกนิวส์  : กัมพูชาปล่อยภาพทหารบาดเจ็บ อ้างว่ากำลังกัมพูชาทำให้ทหารไทย บาดเจ็บกว่า 1,000 นาย  / ความจริง : ภาพที่ใช้ปล่อย เฟกนิวส์ สร้างจาก AI



           ปฏิบัติการด้านกองทัพเรือ



          พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ โฆษกกองทัพเรือ ระบุว่า กรณีที่มีข่าวเกี่ยวกับเรื่องบล็อกเขต หรือ การปิดอ่าวไทย ขอยืนยันว่า เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง รวมถึงข่าวสารที่ออกมาจากผู้บริหารระดับสูงของกัมพูชา ที่อ้างว่า ไทยปิดกั้นการส่งสินค้าทางทะเลไปยังกัมพูชา ผ่านอ่าวไทย กองทัพเรือ ยืนยันว่า ฝ่ายไทยไม่ได้ปิดอ่าวไทยตามที่ถูกกล่าวหา ฝ่ายไทยดำเนินการตัดการส่งกำลังบำรุงที่จะออกจากไทยไปที่กัมพูชาเท่านั้น



          สำหรับพื้นที่จังหวัดตราด ที่มีการประกาศเคอร์ฟิวไปก่อนหน้านี้ ยังยืนยัน ปัจจุบันยังคงจำเป็นต้องใช้มาตรการเคอร์ฟิว ซึ่งเข้าใจว่าประชาชนได้รับความเดือดร้อน แต่อย่างไรก็ตามกองทัพเรือพยายามจะใช้มาตรการดังกล่าวให้สั้นที่สุด เพื่อความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งยังคงมีกลุ่มผู้ไม่ประสงค์ดี เข้ามาปฏิบัติการในพื้นที่จังหวัดตราด ซึ่งฝ่ายความมั่นคงฝ่ายทหารได้ร่วมมือกัน เพื่อดำเนินการป้องกันดังกล่าวอยู่ สำหรับ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน เรื่องการสัญจรช่วงเวลากลางคืนด่านความมั่นคงประจำจุดต่าง ๆ พร้อมที่จะให้ความสะดวกกับประชาชน ซึ่งสามารถติดต่อฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ได้เลยหากมีมีความจำเป็นต้องออกนอกเคหะสถานในเวลากลางคืน



          ส่วนกรณีที่ มีการแชร์ในโซเชียลว่าพบเรือบรรทุกน้ำมันสินค้าของไทยจำนวน 2 ลำอยู่ใกล้กับเกาะกง ประเทศกัมพูชา นั้น พลเรือตรี ปารัช ระบุว่า เรือมีหลายบริษัทที่เป็นบริษัทเดินเรือของไทย ที่ใช้เรือไทยในการลำเลียงน้ำมันเชื้อเพลิงเข้าไปในพื้นที่กัมพูชา ซึ่งที่ผ่านมากองทัพเรือพยายามเจรจาพูดคุยกับทางเจ้าของเรือนั้น ๆ เรื่องการขอความร่วมมือที่จะไม่ให้การสนับสนุนการลำเลียงยุทธปัจจัยเข้าไปในพื้นที่ ซึ่งเรื่องนี้จะมีการพิจารณาในระดับของสภาความมั่นคงแห่งชาติอีกครั้ง



          ปฏิบัติการด้านกองทัพบก



           พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ระบุว่า สำหรับพื้นที่ปฏิบัติการในกลุ่มพื้นที่ปราสาทตาควาย ตัวประสาทถือว่าควบคุมได้ สำหรับกลุ่มเป้าหมายอื่นๆ โดยเฉพาะเนินที่สำคัญ ๆ ที่เป็นองค์ประกอบปราสาทตาควายอยู่ระหว่างการเข้ายึด ซึ่งทุกอย่างยังคงเป็นไปตามแผน ยังไม่มีอะไรน่ากังวล เชื่อว่าอยู่ในขีดความสามารถของกองทัพบกที่จะสามารถดำเนินการได้ สำหรับเรื่องอาวุธต่อสู้รถถังของจีนยังไม่มีข้อมูลการมาขอคืนเพียงแต่เป็นยุทธโธปกรณ์ ซึ่งมีหลายอย่างปกติ เมื่อเราเข้าควบคุมที่หมายจะมียุทโธปกรณ์ของฝ่ายกัมพูชาทิ้งไว้ในพื้นที่ ขณะนี้ยังไม่ได้มีการดำเนินการอย่าง อื่นขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดระเบียบและเสริมความมั่นคงในพื้นที่ ส่วนเรื่องยุทธโธปกรณ์ต่างๆส่วนใหญ่จะมีการจัดระเบียบและจัดเก็บยังไม่มีข้อมูลในการดำเนินการอย่างไรต่อไปกับสิ่งอุปกรณ์เหล่านั้น "สิ่งยุทธโธปกรณ์เหล่านี้ เป็นสิ่งที่ควบคุมได้ในพื้นที่การรบ เราจึงต้องควบคุมเอาไว้หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจจริงๆคงต้องมาว่ากันภายหลัง



           ปฏิบัติการด้านกองทัพอากาศ



          พล.อ.ท.จักรกฤษณ์ ธรรมวิชัย โฆษกกองทัพอากาศ เผยว่า กรณีที่กัมพูชา เผยแพร่ข่าวระบุว่า เครื่องบินรบไทย ทิ้งระเบิดใกล้ศูนย์พักพิงนั้น เรื่องตามกฎหมายระหว่างประเทศและกฎการประทะเป้าหมายทางทหารไม่ได้ถูกจำกัดอยู่จากระยะทางจากชายแดน เป้าหมายทางทหารถูกให้คำจำกัดความอยู่บนพื้นฐานของการใช้โครงสร้างพื้นฐาน หรือ อาคารสถานที่นั้นในวัตถุประสงค์ทางทหาร



ดังนั้น ขอยืนยันว่า การโจมตีเป้าหมายด้วยกำลังทางอากาศทั้งหมดเป็นการโจมตีเป้าหมายทางทหาร เพื่อประโยชน์ของการป้องกันผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับความปลอดภัยของประชาชน



            ด้านนางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เผยว่า กรณีกระแสข่าวข้อกังวลเกี่ยวกับอ่าวไทย ไทยไม่ประสงค์จะยกระดับสถานการณ์ แต่การดำเนินการของไทย เป็นการปกป้องอธิปไตยและเพื่อลดภัยคุกคามเท่านั้น โดยเป็นไปตามกฏหมายระหว่างประเทศ ไทยจะป้องกันไม่ให้การดำเนินการของไทยซึ่งเป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชน ส่งผลกระทบต่อพลเรือน และภูมิภาคในวงกว้าง ไทยยึดมั่นและปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศ รวมถึงอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล ค.ศ.1982 ที่ให้ความสำคัญอันดับต้นกับการรักษาเสรีภาพในการเดินเรือและไม่ประสงค์ให้ส่งผลกระทบต่อการค้าการคมนาคมและห่วงโซ่อุปทาน



 



#แถลงสถานการณ์ไทยกัมพูชา 



 

ข่าวทั้งหมด

X