หลังเหตุพ่อลูกชาวปากีสถาน นายซาจิด อัครัม พ่อวัย 50 ปีและนายนาวีด อัครัม ลูกชายวัย 24 ปี ก่อเหตุยิงชาวยิว ขณะร่วมพิธีฉลองเทศกาล ฮานุกกะห์ (หรือการเฉลิมฉลองเทศกาลแห่งแสง)ที่หาดบอนได รัฐนิวเซาท์เวลส์ เมื่อเย็นวานนี้(14 ธ.ค.) มีผู้เสียชีวิต 15 รายและมีผู้บาดเจ็บ 27 คน ในจำนวนนี้ 6 คนอาการสาหัส ตามรายงานจากกระทรวงสาธารณสุขของของรัฐนิวเซาท์เวลส์ เป็นเหตุสังหารหมู่ที่ร้ายแรงที่สุดในออสเตรเลียในรอบเกือบ 30 ปี โดยคนร้ายผู้เป็นพ่อเสียชีวิตจากการยิงต่อสู้กับตำรวจ ส่วนลูกชายบาดเจ็บสาหัส อาการทรงตัวอยู่ในโรงพยาบาล
นายกรัฐมนตรีแอนโทนี อัลบาเนซี ของออสเตรเลีย เปิดเผยผลประชุมคณะรัฐมนตรีและผู้นำเขตปกครองในดินแดนออสเตรเลียในวันนี้(15 ธ.ค.)ว่า ที่ประชุมมีมติให้การแก้ไขกฎหมายควบคุมการออกใบอนุญาตการครองครองปืนให้เข้มงวดมากขึ้น โดยเฉพาะการออกใบอนุญาตให้กับครอบรองปืน ซึ่งนับจากบัดนี้ ออสเตรเลียจะออกใบอนุญาตการครอบครองปืนให้เฉพาะแก่พลเมืองชาวออสเตรเลีย จะไม่ออกให้กับพลเมืองต่างชาติ ทั้งจะจำกัดจำนวนปืนที่ผู้มีสิทธิ์จะสามารถครอบครองปืน และการจำกัดชนิดของอาวุธปืนที่ผู้มีสิทธิ์ครองครองสามารถหาซื้อปืนจากร้านค้าปืนทั่วไป
ขณะเดียวกัน เจ้าของปืนจะต้องยื่นขอต่อใบอนุญาตทุกครั้งในกรณีใบอนุญาตหมดอายุซึ่งเจ้าหน้าที่ออสเตรเลียจะตรวจสอบประวัติอย่างละเอียดด้วย นอกจากนี้ รัฐบาลออสเตรเลียเสนอให้สำนักงานทะเบียนอาวุธปืนแห่งชาติ เร่งรวบรวมข้อมูลในรัฐและดินแดนต่างๆทั่วประเทศ เพื่อทราบว่าใครเป็นเจ้าของปืนและมีจำนวนปืนกี่กระบอก
การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวมีขึ้น หลังคนร้ายที่เป็นพ่อ มีใบอนุญาตการครอบครองปืนที่ถูกต้องตามกฎหมายในประเภทปืนที่ใช้ล่าสัตว์เพื่อสันทนาการ และครอบครองปืนยาว 6 กระบอกซึ่งต่อมา ตำรวจได้ยึดมาจากบ้านของคนร้าย แต่ผู้เป็นพ่อไม่ใช่พลเมืองชาวออสเตรเลีย ส่วนลูกชายเกิดจากแม่ชาวออสเตรเลีย เป็นพลเมืองชาวออสเตรเลียตามกฎหมาย
ส่วนที่บริเวณที่เกิดเหตุ ชาวบ้านจำนวนมากไปร่วมวางดอกไม้ไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิต ทั้งผู้ใหญ่และเด็กเช็ดน้ำตา กอดกัน และยืนสงบนิ่งไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิต พร้อมมีข้อความให้กำลังใจแก่ชาวยิวให้มีความกล้าหาญและเข้มแข็งในห้วงเวลาแห่งความเศร้าสลดใจในขณะนี้
#ออสเตรเลีย
#คุมเข้มการออกใบอนุญาตปืน
ที่มา: cnn
ข่าวทั้งหมด