ไทยเปิดปฏิบัติฐานที่มั่นเขมร-สูญเสียทหารกล้า รายที่ 10

วันนี้, 12:12น.


          ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 โดยกองกำลังบูรพา สรุปการปฏิบัติการทางทหารต่อฝ่ายกัมพูชา ตั้งแต่ 8 ธ.ค.68 – ปัจจุบัน ดังนี้  ได้ทำลาย



+++ยานเกราะ 3 คัน



+++โดรนตรวจการณ์ 4 ลำ



+++เสาสัญญาณสื่อสาร 2 ต้น



+++ฐานทหาร 4 แห่ง



+++ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 40 นาย



          เช่นเดียวกับ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ประจำวันที่ 12 ธันวาคม 2568 (เวลา 09.00 น.)



สถานการณ์



         ตั้งแต่วันที่ 11 ธันวาคม 2568 เวลา 18.00 น. เป็นต้นมา ในห้วงค่ำ จนถึงเช้ามืด ฝ่ายกัมพูชายังคงตรึงกำลังตลอดแนวชายแดน โดยใช้การยิง อาวุธปืนเล็กยาว ปืนใหญ่ เครื่องยิงลูกระเบิด และโดรนลาดตระเวน เป็นระยะ โดยบางช่วงมีการยิงอาวุธยิงสนับสนุนวิถีโค้งใส่ที่มั่นของฝ่ายเราในพื้นที่ล่อแหลมหลายจุด



          ล่าสุด ไทยสูญเสียทหารไทย รายที่ 10 ส.อ.พชร แย้มแตงอ่อน กองกำลังรบกองทัพภาคที่ 2 ตำแหน่ง พนง.วิทยุสนาม สังกัดกองพันรบพิเศษที่ 2 กรมรบพิเศษที่ 1 (รพศ.1 พัน.2) รบพิเศษป่าหวาย จังหวัดลพบุรี พลีชีพกลางสมรภูมิช่องอานม้า เนิน 677 อ.ตาพระยา จากการถูกกระสุนปืน ค. ของฝ่ายกัมพูชาตกใส่เข้าที่ศีรษะ



          ความเสียหายต่อพื้นที่พลเรือน ตั้งแต่เริ่มการปะทะ วันที่ 7 ธันวาคม 2568 เป็นต้นมา ฝ่ายกัมพูชาได้ยิงอาวุธยิงสนับสนุนวิถีโค้งเข้ามาในพื้นที่พลเรือนของฝ่ายไทย ในพื้นที่ 4 จังหวัด มีกระสุนปืนใหญ่ และลูกจรวด BM-21 ตกในพื้นที่ 55 แห่ง บ้านเรือนเสียหาย 13 หลัง ได้แก่ จังหวัดอุบลราชธานี 1 แห่ง ไม่มีบ้านเรือนเสียหาย , จังหวัดศรีสะเกษ 15 แห่ง บ้านเรือนเสียหาย 10 หลัง, จังหวัดสุรินทรินทร์ 34 แห่ง บ้านเรือนเสียหาย 3 หลัง และจังหวัดบุรีรัมย์ 5 แห่ง ไม่มีบ้านเรือนเสียหาย



          ด้านการช่วยเหลือประชาชน ปัจจุบันมีเกษตรกรในพื้นที่หลายครัวเรือนที่ไม่ได้นำสัตว์เลี้ยงออกจากพื้นที่ และอาหารสัตว์เริ่มไม่เพียงพอ กองทัพภาคที่ 2 ได้ประสาน กรมการสัตว์ทหารบก ในการสนับสนุนหญ้าฟ่อนแห้งให้กับเกษตรกรในพื้นที่ โดยจะนำส่งหญ้าฟ่อนแห้งในเที่ยวแรกแจกจ่ายให้กับเกษตรกรในพื้นที่ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ และจะทยอยสนับสนุนให้กับพื้นที่อื่นๆต่อไป



          ด้านนายภิญโญ ดีหลาย กำนันตำบลชำราก พร้อมผู้ช่วยและเจ้าหน้าที่ทหาร ร่วมกันจับกุมสองสามีภรรยาชาวกัมพูชา ที่บ้านชำราก ต.ชำราก อ.เมือง ตราด จ.ตราด ขณะขี่รถจักรยานยนต์ ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายเส้นทางถนนสาย 3 ตราด-คลองใหญ่ โดยตระเวนถ่ายมาจากด่านเขาล้าน ศูนย์ราชการุณย์สภากาชาดไทยเขาล้าน มุ่งหน้าเข้าตัวเมืองตราด แต่มาถูกเจ้าหน้าที่ทหารและฝ่ายปกครองจับกุมตัวได้ ก่อนจะแจ้งสายตรวจ สภ.บ้านท่าเลื่อน มาควบคุมตัวไปสอบปากคำที่ สภ.บ้านท่าเลื่อน

          เบื้องต้น สองสามีภรรยาไม่ยอมรับว่าเป็นสายลับ บอกเพียงว่าเป็นชาวกัมพูชา มีเอกสารบัตรคนต่างด้าว พักอยู่ อ.คลองใหญ่ โดยมีอาชีพรับจ้างทำความสะอาดตามบ้านชาวบ้าน และปฏิเสธเรื่องถ่ายเส้นทางและค่ายทหารไปทำไม โดยอ้างว่า ญาติจะเดินทางมา แต่มาไม่ถูก จึงต้องถ่ายเส้นทางส่งไปให้ดู ซึ่งในเรื่องดังกล่าวเจ้าหน้าที่ไม่เชื่อ เพราะไม่มีเหตุผลใดที่สองสามีภรรยานี้จะมีความจำเป็นในการถ่ายเส้นทาง และค่ายทหาร และยังมีการพูดคุยกันเป็นภาษากัมพูชาในโทรศัพท์ของฝ่ายหญิง แต่โทรศัพท์ฝ่ายชายยังเปิดดูไม่ได้ เพราะไม่มีสัญญาณ จึงยึดโทรศัพท์ไว้ และนำไปเปิดข้อมูลทั้งหมดในการดำเนินคดีกับสองสามีภรรยาในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีฐานไส้ศึกเผยแพร่ข้อมูลของฝ่ายความมั่นคง และรอขยายผลต่อไป



 



#เขมรรุกรานไทยก่อน



#ตอบโต้เขมร



 

ข่าวทั้งหมด

X