‘ข้าวต้ม’ ลูกช้างป่า อาการดีขึ้น ทีมสัตวแพทย์ดูแลใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง

วันนี้, 14:05น.


         กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เผยแพร่ การดูแลรักษาลูกช้างป่าเพศเมียชื่อ "ข้าวต้ม" ระหว่างวันที่ 8-10 ธันวาคม 2568 โดยอาการมีแนวโน้มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง สัตวแพทย์ ณฐนน ปานเพ็ชร หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวากและศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก รายงานการติดตามอาการอย่างใกล้ชิด พบว่า ข้าวต้มลูกช้างป่าเพศเมีย กินนมได้แล้ว แม้ยังไม่ถึงปริมาณที่สัตวแพทย์คำนวนไว้ ขณะที่การขับถ่ายปัสสาวะเป็นปกติ ส่วนอุจจาระยังมีลักษณะเหลวปนเนื้อครีมเล็กน้อย ทั้งนี้ ไม่พบสภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำกว่าปกติในทุกช่วงเวลาที่ตรวจวัด



          ทีมสัตวแพทย์ได้ดำเนินการรักษาอย่างเข้มข้น ประกอบด้วย การให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ วิตามิน ยาบำรุงตับ ยารักษาแผลในระบบทางเดินอาหาร ยาปฏิชีวนะ ยาลดปวดเกร็งท้องเมื่อมีอาการ และแคลเซียมทางปาก นอกจากนี้ยังมีการดูแลรักษาแผลและแผลกดทับบริเวณผิวหนังอย่างต่อเนื่อง ด้วยการทำความสะอาด พ่นยา ทายา และใช้เลเซอร์บำบัดเพื่อช่วยลดอาการบวม



          ทีมสัตวแพทย์ยังได้ทำการนวดและยืดเหยียดขาทั้งสองข้างหน้าของน้องข้าวต้มเป็นประจำ เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนเลือดและฟื้นฟูการใช้งานของกล้ามเนื้อ ซึ่งน้องข้าวต้มมีพฤติกรรมร่าเริงและแข็งแรงดี



          สำหรับการรักษายังได้รับการสนับสนุนจากผู้ช่วยศาสตราจารย์ สัตวแพทย์หญิง ดร.สุภาเพ็ญ ศรีพิบูลย์ จากคณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ที่เข้าตรวจและช่วยรักษาเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม และสัตวแพทย์หญิง กนกวรรณ ตรุยานนท์ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสุพรรณบุรี ที่เข้าร่วมตรวจและช่วยรักษาเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม



          ขณะนี้ทีมสัตวแพทย์ สัตวบาล และเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าจากหน่วยงานอุทยานแห่งชาติลำคลองงู เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวาก และศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก ร่วมกันดูแลน้องข้าวต้มตลอด 24 ชั่วโมงอย่างใกล้ชิด โดยจะมีการประเมินอาการและติดตามความคืบหน้าอย่างต่อเนื่องเป็นรายวัน



          ทีมสัตวแพทย์,เจ้าหน้าที่และทีมพี่เลี้ยงทุกคนพร้อมใจในการดูแล



#ช้างป่า



#ข้าวต้ม



#กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์พืช

ข่าวทั้งหมด

X