กัมพูชาร้อง UNSC เอาผิดไทย ชี้โจมตีไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขอให้ยุติทันที

11 ธันวาคม 2568, 12:17น.


 


          นายแก้ว เชีย (Keo Chhea) เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำ UN ยื่นหนังสือถึง ซามูเอล ชโบการ์ (Samuel Žbogar) ผู้แทนสโลวีเนีย และประธาน UNSC ประจำเดือนธันวาคม 2025 เพื่อชี้แจงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยอ้างว่า ไทยได้ดำเนินการโจมตีทางทหารต่อกัมพูชา ซึ่งเป็นการโจมตีโดย ‘ปราศจากการยั่วยุ’ และ ‘ไม่ชอบด้วยกฎหมาย’ ละเมิดกฎบัตรสหประชาชาติอย่างร้ายแรง รวมถึงละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ขณะที่กล่าวหาว่าไทยมีการใช้อาวุธหนักอย่างปืนใหญ่ รถถัง​โดรน เครื่องบินรบ และควันพิษ 


 


          การใช้เครื่องบินรบของไทยเป็นไปอย่างโหดร้าย ไม่เลือกเป้าหมาย แสดงถึงการไม่คำนึงต่อชีวิตพลเรือนอย่างสิ้นเชิง และยังไม่ให้ความเคารพต่อหลักมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างเด็ดขาด  การรุกรานที่กำลังดำเนินอยู่ ทำให้มีผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก รวมถึงพลเรือนผู้บริสุทธิ์ ตลอดจนการทำลายล้างบ้านเรือน โครงสร้างพื้นฐานสาธารณะ โบราณสถานที่ได้รับการคุ้มครอง รวมถึงปราสาทพระวิหาร


 


          แถลงการณ์ยังระบุต่อว่า กองทัพไทยยังขยายพื้นที่โจมตีเข้าสู่เขตพลเรือนในจังหวัดบันทายมีชัย ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงทวิภาคี และข้อตกลงสันติภาพกัวลาลัมเปอร์ ที่กำหนดให้การแก้ไขข้อพิพาททางชายแดน และการปักปันเขตแดนต้องกระทำด้วยสันติวิธี และวางอยู่บนหลักกฎหมายระหว่างประเทศ


 


          ขณะนี้ ไทยละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ, ข้อตกลงหยุดยิง 28 กรกฎาคม, ข้อตกลงสันติภาพกัวลาลัมเปอร์ และการใช้แผนที่ฝ่ายเดียว ซึ่งขัดต่อแผนที่ทั้ง 2 ประเทศรับรองร่วมกัน และมีผลตามกฎหมายระหว่างประเทศ


 


          นอกจากนี้ ยังย้ำว่า แม้ประเทศจะเผชิญการยั่วยุจากไทย แต่กัมพูชายังคงยึดมั่นตามหลักพันธกรณีในสหประชาชาติ เช่น การระงับข้อพิพาทโดยสันติภาพ หรือการไม่ใช้กำลัง เพราะจะทำให้กัมพูชาตกอยู่ในภาวะเปราะบางและอันตรายยิ่งขึ้น และเน้นย้ำวิธีการทางการทูตและการเจรจาเท่านั้น


 


          กัมพูชาเห็นว่า สถานการณ์ปัจจุบันเป็นภัยต่อสันติภาพและความมั่นคงระดับภูมิภาค จึงร้องขอให้ UNSC ดำเนินมาตรการดังต่อไปนี้ต่อไทย ได้แก่


 


          1.ประณามการรุกรานด้วยอาวุธโดยไม่มีเหตุจูงใจของไทยต่อราชอาณาจักรกัมพูชาอย่างชัดเจน ซึ่งเป็นการละเมิดมาตรา 2(4) แห่งกฎบัตรสหประชาชาติและหลักการพื้นฐานของกฎหมายระหว่างประเทศ


 


          2.เรียกร้องให้กองทัพไทยยุติการโจมตีทั้งหมดโดยทันที รวมถึงการระดมยิงปืนใหญ่และการปฏิบัติการของเครื่องบินรบ ซึ่งเป็นการละเมิดอธิปไตยและดินแดนของกัมพูชา


 


          3.เรียกร้องให้กองทัพไทยยุติการรุกรานทางอาวุธที่ผิดกฎหมายต่อกัมพูชาโดยทันที ยุติความพยายามใดๆ ในการรุกรานหรือรุกล้ำอธิปไตยและดินแดนของกัมพูชาโดยใช้แผนที่ที่ร่างขึ้นฝ่ายเดียว และเคารพพรมแดนที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลและตราสารที่มีผลผูกพันทางกฎหมายอย่างเต็มที่


 


          4. เรียกร้องให้ประเทศไทยยุติการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศทั้งหมด รวมถึงการโจมตีพื้นที่พลเรือนและเป้าหมายพลเรือน และปฏิบัติตามหลักการมนุษยธรรม การแยกแยะ และความสมดุลอย่างเต็มที่ และเคารพอธิปไตยและบูรณภาพดินแดนของกัมพูชาอย่างเต็มที่


 


          5. ส่งคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงอิสระของสหประชาชาติเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงในพื้นที่ สอบสวนการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศของประเทศไทย และกำหนดความรับผิดชอบของประเทศไทยต่อการเสียชีวิตของพลเรือนและความเสียหายทางวัตถุ


 


          กัมพูชายังคงมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ต่อการเจรจาอย่างสันติ การทูต และการปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศ เราจะยังคงปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงและข้อตกลงสันติภาพกัวลาลัมเปอร์อย่างเต็มที่ต่อไป แม้ว่าประเทศไทยจะระงับและละเมิดข้อตกลงทั้งสองฉบับซ้ำแล้วซ้ำเล่าแต่เพียงฝ่ายเดียวก็ตาม อย่างไรก็ตาม กัมพูชาไม่สามารถและไม่ควรต้องอดทนต่อการรุกรานที่ผิดกฎหมายและไม่หยุดยั้งเหล่านี้ไปอย่างไม่มีกำหนด


 


          ข้าพเจ้าขอเรียกร้องอย่างเร่งด่วนต่อคณะมนตรีความมั่นคงให้ดำเนินการอย่างเด็ดขาด การกระทำของประเทศไทยไม่เพียงแต่เป็นการโจมตีกัมพูชาเท่านั้น แต่ยังเป็นการดูหมิ่นโดยตรงต่อระเบียบกฎหมายระหว่างประเทศและอำนาจของคณะมนตรีนี้ ความน่าเชื่อถือของสหประชาชาติและความสมบูรณ์ของกฎบัตรเรียกร้องให้มีการตอบสนองที่ชัดเจนและทันที


 


#กัมพูชายื่นหนังสือUNSC


 


#แก้วเชีย
ข่าวทั้งหมด

X