ทหารเขมร โจมตีไทยต่อเนื่อง พื้นที่ช่องบก, ช่องสะงำ, ช่องอานม้า, ปราสาทคนา, ปราสาทตาควาย-เขาพระวิหาร

11 ธันวาคม 2568, 11:17น.


          สถานการณ์สู้รบตามแนวชายแดนไทยกัมพูชา เช้าวันนี้ (11 ธ.ค.) เกิดการปะทะอย่างดุเดือดระหว่างทหารไทยและกัมพูชาตลอดแนวรบ ตั้งแต่พื้นที่ของกองทัพภาคที่ 1 และกองทัพภาคที่ 2 เรื่อยไปจนถึงจังหวัดจันทบุรีและตราด ซึ่งอยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด (กปช.จต.) โดยทหารทั้ง 2 ฝ่ายมีการดวลปืนใหญ่และปืน ค. และอาวุธหนักใส่กันอย่างต่อเนื่อง



          มีรายงานว่า พลปืนกล กัมพูชา ถูกสไนเปอร์ทหารไทยสอยร่วงคาช่องอานม้า



          ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ประจำวันที่ 11 ธันวาคม 2568 (เวลา 09.00 น.) ตามที่ได้เกิดการสู้รบตามแนวชายไทย-กัมพูชา ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ขอสรุปผลการปฏิบัติที่สำคัญดังนี้



          สถานการณ์เมื่อเวลา 22.42 น. เกิดเหตุปะทะขึ้น โดยฝ่ายทหารกัมพูชาได้ใช้อาวุธยิงสนับสนุน ได้แก่ ปืนใหญ่และเครื่องยิงลูกระเบิด ยิงเข้ามายังที่ตั้งของฝ่ายเรา พร้อมทั้งมีการใช้อากาศยานไร้คนขับ (โดรน) ทำการตรวจการณ์ในหลายพื้นที่สำคัญ ได้แก่ พื้นที่ช่องบก, ช่องสะงำ, ช่องอานม้า, ปราสาทคนา, ปราสาทตาควาย และบริเวณเขาพระวิหาร



          กองทัพภาคที่ 2 ดำเนินการตอบโต้ตามหลักการป้องกันตนเองอย่างเหมาะสมและได้สัดส่วน โดยใช้อาวุธยิงสนับสนุน ได้แก่ ปืนใหญ่และเครื่องยิงลูกระเบิด เพื่อสกัดกั้นและทำลายเป้าหมายทางทหาร ที่มีความสำคัญของฝ่ายตรงข้าม สามารถสร้างความเสียหายแก่ข้าศึกได้ในหลายพื้นที่ อาทิ การทำลายรถบรรทุกของข้าศึก, การโจมตีที่ตั้งอาวุธยิงสนับสนุน และการโจมตีที่ตั้งทางทหารของฝ่ายกัมพูชา



          พื้นที่ช่องระยี–ปลดต่าง อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ฝ่ายเราได้เข้าควบคุมยึดพื้นที่ และดำเนินการเสริมสร้างความมั่นคงในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันการโต้กลับของฝ่ายตรงข้าม



          พื้นที่ช่องคนา อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ทำการรุกคืบเข้าตีต่อที่หมายตามแผนการปฏิบัติอย่างเป็นขั้นตอน ปัจจุบันสามารถยึดครองที่หมายสำคัญได้ และยังคงปฏิบัติการอย่างต่อเนื่องเพื่อควบคุมพื้นที่ให้เป็นไปตามแผน



          สำหรับการพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง มณฑลทหารบกในพื้นที่ ได้บูรณาการการปฏิบัติงานร่วมกันกับฝ่ายปกครอง อาสาสมัครกิจการพลเรือน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) และอาสาป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ในการดำเนินการลาดตระเวน ตั้งจุดตรวจ เข้าเวรรักษาความปลอดภัยภายในหมู่บ้าน ดูแลรักษาทรัพย์สินของประชาชน และเฝ้าระวังพฤติกรรมบุคคลต้องสงสัย ที่อาจแฝงตัวเข้ามาลาดตระเวนหาข่าวในพื้นที่ ตามแผนพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง เพื่อสร้างความมั่นใจและความปลอดภัยสูงสุดให้แก่ประชาชน



          ด้านสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดตราด (สวท.ตราด) รายงานว่า หน่วยงานฝ่ายความมั่นคงได้ขอความร่วมมือให้ประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงบริเวณชายแดน 100% เนื่องจากคาดว่าจะมีการปะทะที่รุนแรงและขยายแนวรบเพิ่ม พร้อมทั้งเน้นย้ำว่า งดนำสิ่งของไปมอบในพื้นที่เสี่ยง และห้ามใช้โทรศัพท์มือถือในพื้นที่เสี่ยงโดยเด็ดขาด เนื่องจากฝ่ายกัมพูชาสามารถจับสัญญาณเพื่อใช้ในการโจมตีได้



 

ข่าวทั้งหมด

X