ดร. ซาแมนธา เบอร์เจส รองผู้อำนวยการสำนักงานบริการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโคเปอร์นิคัส ซึ่งเป็นโครงการสังเกตการณ์โลกของสหภาพยุโรป เปิดเผยว่า อุณหภูมิเฉลี่ย 3 ปีตั้งแต่ 2566 ถึง 2568 มีแนวโน้มสูงเกิน 1.5 องศาเซลเซียสเป็นครั้งแรก เฉพาะในปีนี้ อุณหภูมิโลกตั้งแต่เดือนมกราคมถึงพฤศจิกายนโดยเฉลี่ยสูงกว่าระดับก่อนยุคอุตสาหกรรม 1.48 องศาเซลเซียส แต่ในเดือนพฤศจิกายน อุณหภูมิโลกสูงกว่าระดับก่อนยุคอุตสาหกรรม 1.54 องศาเซลเซียส
ตามข้อมูลของโคเปอร์นิคัส ปีที่อากาศร้อนที่สุดคือในปี 2567 ที่สูงกว่ายุคก่อนอุตสาหกรรม มากกว่า 1.5 องศาเซลเซียส ซึ่งอุณหภูมิพื้นผิวทะเลก็ทำสถิติสูงสุดใหม่เช่นกัน เนื่องจากก๊าซเรือนกระจกที่สะสมในชั้นบรรยากาศ ผสานกับปรากฏการณ์เอลนีโญที่รุนแรง ทำให้คลื่นความร้อนเกิดขึ้นบ่อยและรุนแรง
รายงานระบุว่า เดือนพฤศจิกายนของปีนี้ เป็นเดือนพฤศจิกายนที่ร้อนที่สุดเป็นอันดับ 3 โดยมีอุณหภูมิที่อุ่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในภาคเหนือของแคนาดาและมหาสมุทรอาร์กติก โดยมีภัยพิบัติจากสภาพอากาศเกิดขึ้นหลายแห่ง โดยเฉพาะพายุไซโคลนและน้ำท่วมใหญ่ที่สร้างความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินในเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งนักวิทยาศาสตร์เตือนว่า สะท้อนถึงอัตราการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เร่งตัวขึ้น และวิธีเดียวที่จะบรรเทาอุณหภูมิที่สูงขึ้นในอนาคตคือการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างรวดเร็ว
....
#สภาวะโลกร้อน
#ก๊าซเรือนกระจก
ข่าวทั้งหมด