รัฐบาลเตรียมงบเยียวยา ปชช.เหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา

09 ธันวาคม 2568, 14:16น.


         ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี นายสิริพงศ์ อัครสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผย ว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย แจ้งให้ที่ประชุม ครม. ทราบถึงแถลงการณ์เมื่อวานนี้ (8 ธ.ค.) ที่ประชุม สมช. มีมติยืนยันว่ารัฐบาลจะดำเนินการตามมติ สมช. จะปฏิบัติการทางทหารในทุกกรณีตามเงื่อนไขของสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และให้มีการปฏิบัติการทางทหารในเรื่องอื่นตามความจำเป็น



          โดยนายกรัฐมนตรี มอบหมายทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลประชาชนที่ต้องอพยพไปยังศูนย์พักพิงให้ดีที่สุด ทั้งอาหาร น้ำดื่ม ความเป็นอยู่ ความปลอดภัย ทางการแพทย์ ขณะนี้มีนายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พล.ท. อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม อยู่ในพื้นที่ เพื่อตรวจสอบความเรียบร้อย



          นอกจากนั้น ยังให้กระทรวงมหาดไทยและ ปภ. เตรียมการเรื่องงบประมาณเยียวยาประชาชนที่ต้องอพยพจากที่อยู่อาศัยตามหลักเกณฑ์เดิม เพื่อให้มีความพร้อมและโอนเงินได้ อย่าให้เกิดความล่าช้าให้กระทรวงกลาโหมและกระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้สื่อสารข้อมูลหลัก ประเด็นที่เกี่ยวกับสถานการณ์ดังกล่าวให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันและถูกต้อง



          นายกรัฐมนตรี ขอความร่วมมือจาก ครม.ทุกท่าน หากว้างเว้นภารกิจ ขอให้ไปตรวจเยี่ยมให้กำลังใจประชาชนที่อพยพอยู่ตามแนวชายแดนด้วย



          ส่วนเรื่องเงินเยียวยาให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วมในภาคใต้ ซึ่งมีประชาชนที่ได้ ลงทะเบียนในระบบออนไลน์แล้วได้รับเงินล่าช้า จึงกำชับ ปภ.เร่งแก้ไขระบบให้ประชาชนได้เงินโดยเร็วที่สุด



          ส่วนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ การลงทะเบียน ตรวจสอบสิทธิ สำหรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ คาดจะมีขึ้นในต้นเดือนมกราคมปี 69 โดยนายกรัฐมนตรี ให้ข้อห่วงใยในเรื่องหลักเกณฑ์ เพราะได้รับร้องเรียนจากประชาชนจำนวนมาก ว่าหลักเกณฑ์ที่ผ่านมา มีสอง หลักเกณฑ์ คือ รายได้และทรัพย์สิน ซึ่งมีบางคนเกณฑ์รายได้เข้าเกณฑ์มีไม่เกิน 100,000 บาท แต่ปรากฎทราบ ภายหลังว่ามีทรัพย์มูลค่ามาก จึงทำให้หลักเกณฑ์จ่ายเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ผ่านมามีข้อคลางแคลงใจ จึงสั่งการกระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทบทวนหลักเกณฑ์เหล่านี้ให้ครบทุกมิติ เพื่อให้การสำรวจบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในรอบใหม่เป็นไปอย่างเป็นธรรม 



 



 

ข่าวทั้งหมด

X