นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย เป็นประธานประกาศเจตนารมณ์ต่อต้านการทุจริต ภายในงานวันต่อต้านคอร์รัปชั่นสากล (ประเทศไทย) 'HERO OF THE TRUTH ร่วมหยุดคอร์รัปชั่น' โดยมีประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
นายกฯกล่าวว่า องค์การสหประชาชาติประกาศให้วันที่ 9 ธ.ค.ของทุกปีเป็นวันต่อต้านคอร์รัปชั่นสากล เป็นวันที่ประชาคมโลกแสดงจุดยืนร่วมกันในการขจัดการทุจริตในทุกรูปแบบ เพราะการทุจริตเป็นปัญหาที่สั่นคลอนความเชื่อมั่น ทำลายโอกาสการพัฒนา และลดทอนคุณภาพชีวิตของประชาชน ในฐานะนายกฯขอประกาศเจตจำนงอย่างชัดเจน ณ ที่นี้ว่ารัฐบาลจะยืนหยัดต่อสู้กับการทุจริต ด้วยความเด็ดขาดไม่ลังเล ไม่ประนีประนอมและไม่ผ่อนปรนให้กับผู้ที่บ่อนทำลายผลประโยชน์ของประเทศชาติ และพร้อมที่จะทำงานร่วมกับทุกภาคส่วน เพื่อสร้างสังคมที่โปร่งใสและเป็นธรรมประเทศไทยกำลังเผชิญความท้าทายด้านความโปร่งใสกระทบต่อศรัทธาและความเชื่อมั่นของประชาชน
ดัชนีการรับรู้การทุจริตหรือคอร์รัปชั่น CPI (Corruption Perceptions Index) หรือดัชนีการรับรู้การทุจริตปี 2567 ดัชนี CPI ของประเทศเดนมาร์กสูงถึง 90 คะแนนเป็นอันดับ 1 ของโลก ประเทศสิงคโปร์ ได้ 84 คะแนน เป็นอันดับ 3 ของโลกและเป็นอันดับ 1 ในเอเชียแปซิฟิก ส่วนประเทศไทยได้ 34 คะแนน จัดอยู่ในอันดับที่ 107 ของโลก ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่ายังมีช่องโหว่ที่ต้องเร่งแก้ไขและดำเนินการและรัฐบาลนี้จะไม่หยุดแก้ไข แต่จะมุ่งมั่นยกระดับมาตรฐานความโปร่งใสของประเทศให้สูงขึ้น และเป็นรูปธรรม เราต้องมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ ไม่ใช่เพียงเพื่อทำให้ลำดับ CPI ดีขึ้น แต่เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าประเทศไทยสามารถสร้างระบบรัฐที่โปร่งใสตรวจสอบได้และยืนอยู่บนหลักธรรมาภิบาลเพื่อให้ประเทศไทยพัฒนาก้าวหน้าไปในทุกด้าน ทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และมีความเข้มแข็งมีเสถียรภาพตามหลักนิติธรรมและหลักธรรมาภิบาลที่ดีมีความโปร่งใสตรวจสอบได้ และสร้างความเชื่อมั่นให้คนไทย และชาวต่างชาติ
ได้แจ้งกับคณะรัฐมนตรี (ครม.) และบรรดาส่วนราชการ คือต้องเสริมสร้างระบบป้องกันการทุจริต ต้องกำหนดมาตรการป้องกันการทุจริตในรูปแบบเชิงรุก โครงการที่ใช้งบประมาณเป็นจำนวนมากต้องผ่านการประเมินความเสี่ยง ต้องสร้างระบบตรวจสอบภายในที่เข้มข้น ไม่ใช่ทำตามรูปแบบ แต่ต้องเป็นเป็นผลจริง และให้นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของภาครัฐและการทำงานภาครัฐต้องลดขั้นตอนการบริการประชาชนที่ไม่จำเป็น เพิ่มม e-Service และ One Stop Service ใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อการดำเนินการที่เกี่ยวกับการป้องกันการทุจริต สร้างความโปร่งใสและลดการใช้อำนาจ และลดปัจจัยที่เปิดช่องให้เกิดการแทรกแซง รวมถึงเปิดเผยข้อมูลภาครัฐให้ประชาชนได้เข้าถึงได้ง่าย ตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน และต้องมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด โปร่งใสและเสมอภาค ผู้ใดทุจริตต้องรับผิด ผู้เอื้อประโยชน์ต้องถูกตรวจสอบ และต้องรับผิด หากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการสนับสนุนให้เกิดการทุจริต ไม่มีการละเว้น ไม่มีอภิสิทธิ์ไม่ว่าตำแหน่งใดหรือฝ่ายใดส่วน ใครที่มีความซื่อสัตย์สุจริตรัฐบาลจะปกป้องคุ้มครอง และให้การสนับสนุนมีความก้าวหน้า มีความก้าวหน้าในหน้าที่การงานอย่างเต็มที่
จะต้องเสริมสร้างวัฒนธรรมในสังคมไทยปลูกฝังจิตสำนึกด้านจริยธรรมและความโปร่งใสตั้งแต่ในสถานศึกษา และหน่วยงานรัฐให้ทุกคนมีความซื่อสัตย์สุจริต ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน ภาคประชาสังคม และสื่อมวลชนเฝ้าระวังและแจ้งเบาะแสการทุจริต รวมทั้งการคุ้มครองผู้แจ้งเบาะแสอย่างจริงจัง เพื่อให้คนทำถูกมีที่ยืนที่มั่นคง และการป้องกันปราบปรามการทุจริตจะต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจกันของทุกฝ่าย
ขอให้ทุกหน่วยงานตั้งเป้ายกระดับดัชนีการรับรู้การทุจริต หรือ CPI ด้วยการจัดทำแผนปฏิบัติการที่ส่งผลต่อการเพิ่มคะแนน CPI รัฐบาลจะติดตามประเมินผลอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง เป้าหมายคือเพื่อประเทศไทยที่โปร่งใสและน่าเชื่อถือ มีอนาคตที่มั่นคงสำหรับลูกหลานของเรา
#วันต่อต้านคอร์รัปชั่นสากล
#CPI
ข่าวทั้งหมด