นายอนุรัตน์ ธรรมประจำจิต ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยว่า ได้รับคำสั่งให้อพยพประชาชนออกจากพื้นที่สีแดงและสีเหลือง โดยสั่งการให้นายอำเภอกันทรลักษ์ แจ้งอพยพชาวบ้านในพื้นที่ชายแดนโซนสีแดง จำนวน 7 ตำบล ประกอบด้วย ต.เสาธงชัย ต.รุง ต.ละลาย ต.ภูผาหมอก ต.ชำ ต.บึงมะลู และ ต.โนนสำราญ และพื้นที่โซนสีเหลือง จำนวน 5 ตำบล ประกอบด้วย ต.เมือง ต.ทุ่งใหญ่ ต.เวียงเหนือ ต.ขนุน ต.สังเม็ก เฉพาะ หมู่ 4 และหมู่ 20 ขณะที่ อ.ขุนหาญ และ อ.ภูสิงห์ ยังรอสัญญาณจากกองทัพภาคที่ 2
ขณะนี้นายอำเภอกันทรลักษ์ และอำเภอติดเขตชายแดน ได้แจ้งประชาชนให้รับทราบแล้ว ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก เพราะเรามีแผนอพยพจากต้นทางไปยังปลายทางที่ชัดเจน โดยหลังเกิดเหตุได้ประชุมกับคณะรอง ผู้ว่าฯ และหัวหน้าส่วนราชการจังหวัด รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
นายณรงค์ เทพเสนา ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมด้วยรองผู้ว่าราชการจังหวัดฯ และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจประชาชนที่เข้าพักในศูนย์พักพิงชั่วคราว ตามแผนอพยพประชาชนในพื้นที่เสี่ยงตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา
ผู้ว่าราชการจังหวัดได้พูดคุยสอบถามความต้องการของประชาชนในศูนย์พักพิง ทั้งด้านอาหาร น้ำดื่ม ยารักษาโรค การดูแลผู้สูงอายุ เด็กเล็ก และกลุ่มเปราะบาง พร้อมกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวกและปลอดภัยสูงสุด
แม้สถานการณ์ชายแดนจังหวัดอุบลราชธานีในขณะนี้ ยังไม่มีเหตุปะทะเกิดขึ้น แต่ทางจังหวัดได้ยกระดับความพร้อมตามแผนป้องกันภัยเพื่อประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง และดำเนินการเคลื่อนย้ายประชาชนในพื้นที่สีแดง รวมถึงกลุ่มเปราะบาง มาอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยเรียบร้อยแล้ว
ด้านการดูแลประชาชน จังหวัดได้จัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราวหลายจุด พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกจำเป็น เช่น
– พื้นที่พักแรม
– อาหารและน้ำดื่ม
– จุดบริการแพทย์และพยาบาลเบื้องต้น
– ระบบรักษาความปลอดภัย
– มุมดูแลเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้พิการ
– การดูแลด้านสุขภาพจิตโดยทีมสหวิชาชีพ
ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีเน้นย้ำว่า จังหวัดให้ความสำคัญสูงสุดต่อความปลอดภัยของประชาชน และยังคงติดตามสถานการณ์แบบเรียลไทม์ร่วมกับหน่วยงานความมั่นคง หากมีความจำเป็นจะปรับแผนและประกาศแจ้งประชาชนทันที
ข่าวทั้งหมด