ตำรวจ ปอศ.เผย ผู้เสียหายให้การพาดพิงเวย์ ไทเท-หย่ากันหรือไม่ ไม่มีผลทางคดี

วันนี้, 13:17น.


          คดี นางไรบีนา อินทชัย หรือ "นานา ไรบีนา" อายุ 44 ปี ฉ้อโกงหลอกลงทุน พ.ต.อ.นิตติโชติ เพ็ญจำรัส รอง ผบก.ปอศ. กล่าวว่า ตัวเอกสารสลิปการโอนเงินที่ตรวจพบ เป็นเอกสารที่มีการดัดแปลงแก้ไข แล้วนำไปแสดงหรืออ้างกับผู้เสียหายท่านหนึ่งว่ามีการโอนเงินไปลงทุนกับบุคคลอีกท่านหนึ่งจริง แต่เมื่อเราตรวจสอบก็พบว่าเป็นเอกสารปลอม ซึ่งในส่วนผู้เสียหายที่ถูกกระทำเช่นนี้ เบื้องต้นพบ 1 ราย เป็นบุคคลทั่วไปไม่ใช่ดารา แต่ไม่ขอเปิดเผย เนื่องจากอยู่ระหว่างตรวจสอบหลักฐานอิเล็กทรอนิกส์ที่เรายึดมาตรวจสอบเพิ่มเติมเพื่อดูว่านอกเหนือจากหลักฐานเหล่านี้ยังมีหลักฐานอื่นเพิ่มเติมอีกหรือไม่



          ส่วนเอกสารการโอนหุ้น เป็นการนำมากล่าวอ้างกับผู้เสียหายท่านหนึ่งเฉยๆว่า ได้มอบหุ้นร้านตัดผมให้กับผู้เสียหายท่านนี้แล้ว แต่เราตรวจสอบพบว่า เอกสารหุ้นดังกล่าวไม่ใช่ของนางไรบีนาจริง เพียงแต่มีการทำสัญญาโอนหุ้นกันไว้จริง แต่ตัวหุ้นที่นำมาแสดงนั้นไม่ใช่ของนางไรบีนา ซึ่งในส่วนนี้เรากำลังตรวจสอบว่ามีการโอนหุ้นให้จริงหรือไม่ เพราะตัวนางไรบีนาเอง ทราบว่าก็มีหุ้นอยู่ในธุรกิจร้านตัดผมดังกล่าวด้วยเช่นกัน



          ส่วนเครื่อง ledger-nano-x (hardware wallet) หรือเครื่องเก็บเงินดิจิทัล ที่ตรวจยึดมานั้นอยู่ระหว่างประสานผู้เชี่ยวชาญ และคนใกล้ชิดมาร่วมตรวจสอบว่า มีอะไรอยู่บ้าง และหากพบว่าทรัพย์สินที่อยู่ภายในเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดก็จะต้องตรวจยึดไว้ ซึ่งขณะนี้เจ้าตัวอ้างอยู่ว่าเป็นของผู้อื่น 



          ส่วนจะมีการเชิญตัว นายปริญญา อินทชัย หรือ เวย์ ไทเทเนี่ยม สามี มาให้ปากคำด้วยหรือไม่ พ.ต.อ.นิตติโชติ ตอบว่า ตอนนี้อยู่ระหว่างติดต่อประสานมาเข้าให้ปากคำ ยังไม่ถึงขั้นออกหมายเรียก แต่ว่าเราก็เตรียมการจะออกหมายเรียก นายปริญญา ไว้อยู่แล้ว 



          ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า นายปริญญา เคยมาพบพนักงานสอบสวนก่อนหน้านี้ ยืนยันตรงนี้ว่าไม่เป็นความจริง และในส่วนของตัวนายปริญญา นั้น ขณะนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างพิจารณาตรวจสอบทุกมิติ ว่าตัวเขานั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้ในลักษณะไหน



          ส่วนจะดำเนินการอย่างไรก็คงพิจารณาจากอัตราโทษเป็นหลัก อาทิ อัตราโทษต่ำกว่า 3 ปี ต้องทำเช่นไร อัตราโทษมากกว่า 3 ปี ต้องดำเนินการอย่างไร มันมีขั้นตอนทางกฎหมายอยู่แล้ว 



          พ.ต.อ.นิตติโชติ ยอมรับว่า ขณะนี้เองก็มีผู้เสียหายบางรายพาดพิงไปถึงนายปริญญา เพียงแต่ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบพยานหลักฐานให้แน่ชัดก่อนว่าเกี่ยวข้องมากน้อยแค่ไหน หากพบว่าเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดจริงก็จะต้องดำเนินการทางกฎหมายเช่นเดียวกัน ขณะที่ในส่วนของมูลค่าความเสียหายแม้ตอนนี้จะมีจำนวนมาก แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นที่จะตั้งเป็นคดีพิเศษแล้วให้ทางดีเอสไอช่วยทำ



          เมื่อถามว่าจะมีการขยับข้อหาเป็นฉ้อโกงประชาชนหรือไม่ พล.ต.ต.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ ผบก.ปอศ. กล่าวว่า องค์ประกอบของข้อหาฉ้อโกงประชาชน กฎหมายระบุไว้ว่าจะต้องมีการโฆษณาเผยแพร่ประกาศให้บุคคลทั่วไปได้ทราบ แต่ในเคสของนางไรบีนา เป็นการเจาะจงกลุ่มเพื่อน ไม่ได้ประกาศให้กลุ่มคนทั่วไปทราบ



          ดังนั้นหลักฐาน ณ วันนี้จึงยังไม่เข้าองค์ประกอบ เพียงแต่เป็นการครบองค์ประกอบของความผิด พ.ร.บ.กู้ยืมเงินที่มาจากการฉ้อโกงประชาชน



 

ข่าวทั้งหมด

X