*รอบวัน(2): ป.ค้นบ้านนักการเมืองดังที่อุทัยฯ/สศช เผยหนี้สาธารณะเพิ่มขึ้น./พณ.ปรับเป้าส่งออก*

+++การชุมนุมคัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินที่ จ.กระบี่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ กล่าวว่า ปัญหานี้กระทรวงพลังงานพูดคุยกับกลุ่มคัดค้านมาโดยตลอด แต่คุยกันไม่รู้เรื่อง สื่อก็ไปช่วยคุยแล้วกัน โดยแนวโน้มของรัฐบาลคือ ทำได้ก็ทำ ทำไม่ได้ก็ไม่ทำ ถ้าไฟฟ้าไม่มีใช้ก็ไปรับผิดชอบกันในวันหน้า ส่วนการผลิตไฟฟ้าโดยใช้น้ำมันปาล์ม ขณะนี้สั่งการไปให้พิจารณาดู นายกฯ กล่าวถึง การชุมนุมว่าหากยังปักหลักอยู่ วันหลังก็จะเดือดร้อนเพราะมีกฎหมาย แต่ไม่อยากใช้ อยากให้มาพูดคุยกันดีๆ กระทรวงพลังงานมีหน้าที่ชี้แจงในส่วนของราชการ ผู้คัดค้านมีอะไรก็มาพูดให้เจอกัน ถ้าพูดกันไม่รู้เรื่อง เดี๋ยวจะหาคนกลางไปพูด

+++นายณรงค์ชัย อัครเศรณี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า กระทรวงพลังงานจะยังคงเดินหน้าตามแผนก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินในพื้นที่ภาคใต้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะโรงไฟฟ้าถ่านหิน จ.กระบี่ 800 เมกะวัตต์ เพราะหากไม่มีพลังงานหลักคือถ่านหิน นอกเหนือจากก๊าซธรรมชาติที่ใช้ในปัจจุบัน จะทำให้พื้นที่ภาคใต้มีความเสี่ยงมากขึ้นจากปริมาณไฟฟ้าไม่เพียงพอ ปัจจุบันภาคกลาง ต้องส่งกระแสไฟฟ้าไปช่วยพื้นที่ภาคใต้ 600 เมกะวัตต์ ซึ่งจะมากกว่านี้คงไม่ได้ ดังนั้น จะเร่งเดินหน้าชี้แจงประชาชนเพื่อทำความเข้าใจ โดยในวันที่ 25 กรกฎาคมนี้ มีกำหนดเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นที่ อ.เทพา จ.สงขลา เพื่อเดินหน้าโรงไฟฟ้าถ่านหินอีกแห่งด้วย บางฝ่ายต้องการให้นำปาล์มน้ำมันมาผลิตกระแสไฟฟ้าแทนเชื้อเพลิงถ่านหิน ปัจจุบันก็ทำอยู่ แต่อยากให้ทำความเข้าใจข้อเท็จจริงว่าพลังงานทดแทนในพื้นที่ทั้งหมด ทำให้ตายก็ได้แค่ 200 เมกะวัตต์เท่านั้น ที่บอกว่ามีกำลังผลิต 2,000 เมกะวัตต์น่าจะเป็นความเข้าใจผิด

+++กรณี พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ยอมรับหลายโครงการขนาดใหญ่ไม่สามารถเปิดประมูลได้ทันในสิ้นปีนี้ โดยเฉพาะโครงการเส้นทางรถไฟสายต่างๆ นายกฯ กล่าวตั้งคำถามว่า เปิดประมูลไม่ทันเพราะอะไร เพราะเถียงกันตลอด คนจะได้ก็ถูกล้มประมูล ถูกฟ้องร้อง ทำไมไม่ยอมรับกติกาบางอย่างที่มันจบไปแล้ว ก็รื้อฟื้นมันขึ้นมาใหม่          ยอมรับว่าต้องกระทบต่อการลงทุนและมีค่าความเสียหายแน่นอน

+++นางภัทธีรา ดิลกรุ่งธีระภพ  นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย เปิดเผยว่า กรณีที่นายกฯ ยอมรับว่า การลงทุนภาครัฐ ที่อาจจะเลื่อนออกไป รวมถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี มองว่า นักลงทุนไม่ได้ให้น้ำหนักกับปัจจัยดังกล่าว เพราะที่ผ่านมารับรู้ถึงความล่าช้าของโครงการลงทุนไปแล้ว จากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวส่งผลให้โบรกเกอร์ปรับลดประมาณการกำไรของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นลง เหลือร้อยละ 8-9 จากเดิมร้อยละ 15 เนื่องจากการลงทุนภาครัฐล่าช้ากว่าที่คาดหมายไว้ และนักลงทุนเกิดความไม่เชื่อมั่นพากันขายหุ้นออกมา ส่งผลให้เป้าหมายดัชนีหุ้นไทยในปีนี้ ไม่น่าเกิน 1,600 จุด ขณะที่ มูลค่าการซื้อขายหุ้น น่าจะปรับตัวลดลงเหลือ 4 หมื่นล้านบาท และวันนี้ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศย (ตลท.) จะแถลงผลดำเนินงานครึ่งแรก และแผนครึ่งปีหลัง

 +++นายธานินทร์ ผะเอม รองเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า ขณะนี้สศช. ได้สรุปผลการดำเนินการตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 ในช่วง 3 ปีแรก (2555-2557) เสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นจุดแข็งของเศรษฐกิจไทยมาตลอด ก็เริ่มมีสัญญาณต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจในระยะยาวให้มีข้อจำกัดมากขึ้น โดยเฉพาะหนี้สาธารณะที่เพิ่มขึ้นจากเฉลี่ยร้อยละ 37.9 ในช่วงแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 10 เป็นร้อยละ 42.2 ในช่วง 3 ปีแรกของแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 11 แสดงให้เห็นว่า แม้จะอยู่ภายใต้กรอบวินัยทางการคลัง แต่ตัวเลขหนี้กลับมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากผลของการดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น ซึ่งจะเป็นข้อจำกัดในการใช้มาตรการทางการคลังในการกระตุ้นเศรษฐกิจและการพัฒนาศักยภาพการขยายตัวทางเศรษฐกิจในระยะต่อไป

+++เรื่องการส่งออก พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ สั่งให้กรมการค้าระหว่างประเทศไปทบทวนตัวเลขเป้าหมายการส่งออกของไทยในปีนี้ใหม่ จากที่ตั้งไว้ว่า จะขยายตัวร้อยละ 1.2 เนื่องจากการส่งออกของไทยได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่ฟื้นตัว คาดว่า สัปดาห์หน้าจะได้ข้อสรุป รายงานระบุว่า อาจจะปรับลดเป้าหมายการส่งออกจากร้อยละ 1.2 เหลือร้อยละ 0-0.5 ที่ยังคงเป็นบวกอยู่ก็เพื่อผลักดันการทำงาน แต่ปัจจัยเสี่ยงเศรษฐกิจโลก มีแนวโน้มชะลอตัวต่อเนื่อง ทำให้การนำเข้าสินค้าทุนและวัตถุดิบของผู้ส่งออกจึงติดลบต่อเนื่อง

+++หลังจากที่ราคาทองคำโลกลดกดราคาขายทองในประเทศลดลงแรงในรอบ 5 ปี ทำให้บรรยากาศการซื้อขายทองเป็นไปอย่างคึกคัก มีนักลงทุนและประชาชนเข้าแถวเพื่อรอซื้อทองคำจำนวนมาก จนบางร้านต้องขายตั๋วทองคำแทนทองคำจริง

+++นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ เปิดเผยว่า สถานการณ์ขาดแคลนทองคำเกิดขึ้นทั่วโลก เป็นช่วงขาลง หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯออกมาดี นักลงทุนหุ้นจีนต้องขายทองคำที่ถืออยู่เพื่อมาประคองทรัพย์สินในตลาดหุ้นจีนที่ลดลง และไม่มีแรงซื้อกลับเข้ามา โดยคาดว่าราคาทองในสัปดาห์นี้จะอยู่ที่ 17,800-18,300 บาทต่อบาททองคำ และราคาทองต่างประเทศที่ 1,083-1,120 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์

+++ปฎิบัติการการฟ้าสางที่อุทัยธานี ภายใต้ยุทธการสะแกกรัง เริ่มขึ้นเมื่อเวลา 06.00 น. พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รักษาการผู้บังคับการกองปราบปราม พ.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง พ.ต.อ.สุทิน ทรัพย์พ่วง นำกำลังตำรวจกองปราบและหน่วยคอมมานโดกว่า 200 นาย บุกปิดล้อมตรวจค้นบ้านนักการเมืองชื่อดัง นายชาดา ไทยเศรษฐ์ อดีต ส.ส.อุทัยธานี เครือข่ายผู้มีอิทธิพลในจังหวัดอุทัยธานี 12 จุด รวมทั้งกลุ่มผู้มีอิทธิพลและมือปืนรับจ้างภายในจังหวัดอุทัยธานี จะแถลงผลการตรวจค้นที่กองบังคับการภูธรตำรวจจังหวัดอุทัยธานี ช่วงสายวันนี้

+++กรณีนายมนตรี สิหนาทกถากุล อายุ 78 ปี นักธุรกิจชื่อดัง เจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์หลายแห่ง และเป็น 1 ในหุ้นส่วนโรงแรมแลนด์มาร์ค ถูกนายประสาร โพธิ์ด้วง อดีตลูกน้องยิงเสียชีวิต ก่อนที่นายประสารจะยิงตัวตายตาม พร้อมทิ้งจดหมายระบายความน้อยใจ ตัดพ้อว่าถูกนายมนตรีหลอก พ.ต.อ.ภาดล ประภานนท์ รอง ผบก.น.5 รรท.ผบก.น.5 พ.ต.อ.รัชพล ชนะศรีขจร ผกก.สน.ทุ่งมหาเมฆ ตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่บ้านเลขที่ 1719/5-9 ถนนจันทน์เก่า ซอย 10 แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร ของนายมนตรี พบว่ามีความชัดเจนมาก ผู้ลงมือก่อเหตุคือนายประสาร ใช้ปืนขนาด 11 มม. สังหารนายมนตรี ส่วนการเข้าให้ปากคำนั้นอยู่กับทางพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ นัดญาติทั้งสองฝ่ายเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมเพื่อหาชนวนเหตุหรือปมสังหารครั้งนี้

+++ศาลจังหวัดเกาะสมุยสืบพยานโจทก์คดีฆ่า 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ ที่เกาะเต่า   เจ้าหน้าที่เรือนจำอำเภอเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เบิกตัวนายเวพิว และนายซอริน 2 จำเลยชาวพม่า รับฟังการสืบพยานโจทก์ ในคดีพนักงานอัยการจังหวัดเกาะสมุยยื่นฟ้องทั้งคู่ร่วมกันฆาตกรรมนายเดวิด มิลเลอร์ อายุ 24 ปี และน.ส.ฮันนาห์ วิตเธอร์ริดจ์ อายุ 24 ปี 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ เสียชีวิตบนเกาะเต่า อ.เกาะพะงัน เหตุเกิดเมื่อกลางเดือนก.ย. 2557 ที่ศาลจังหวัดเกาะสมุย โดยมีนายนคร ชมพูชาติ ทนายความจากสภาทนายความ พร้อมทีมทนายความ นางเมไต แม่ของนายเวพิว และนางพิว ชุยนุก แม่ของซอริน ร่วมรับฟังด้วย

+++ในการสืบพยานโจทก์ พ.ต.อ.เชิดพงษ์ ชิวปรีชา ผกก.สส.บก.ภ.จว.ระนอง พยานโจทก์ นำภาพจากกล้องวงจรปิดที่เก็บรวบรวมจากกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ บริเวณที่เกิดเหตุ และบริเวณใกล้เคียงมาประกอบหลักฐาน โดยพบว่ามีภาพของ ผู้ต้องหาทั้งที่วิ่งผ่าน และเดินผ่าน ระหว่างห้องพักพนักงานเอซีทูรีสอร์ทกับที่เกิดเหตุหลายครั้ง ระหว่างช่วงเวลา 03.00 น. ถึงเวลา 05.00 น. ของวันเกิดเหตุ ผู้ต้องหาทั้งสองยืนยันว่า ตัวเองอยู่ในรูปช่วง 23.00-02.00 น. ไม่ใช่ช่วง 03.00-05.00 น. ตามที่ตำรวจระบุว่าเป็นผู้ต้องสงสัย

+++การสืบพยานโจทก์ในวันนี้ ศาลจะสืบพยานโจทก์ที่เป็นนักวิทยาศาสตร์ จากสถาบันนิติเวช ร.พ.ตำรวจ ในส่วนของการตรวจผลดีเอ็นเอ