ครม. เห็นชอบ สปส. ปรับเพดานค่าจ้าง เพิ่มเงินสมทบ 875บ.ต่อเดือน เพิ่มสิทธิประโยชน์และความมั่นคงให้ผู้ประกันตน

วันนี้, 18:28น.


          สำนักงานประกันสังคมเปิดเผยถึงการดำเนินมาตรการปรับเพดานค่าจ้างประกันสังคม โดยเริ่มใช้ในปี 2569 เป็นต้นไป เพื่อให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจและบริบทค่าจ้างแรงงานในปัจจุบัน รวมทั้งเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้ความคุ้มครองผู้ประกันตนอย่างทั่วถึงและเหมาะสมกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง



          นางสาวกาญจนา พูลแก้ว เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวว่า ในวันที่ 2 ธันวาคม 2568 คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าจ้างขั้นต่ำและขั้นสูงที่ใช้เป็นฐานในการคำนวณเงินสมทบกองทุนประกันสังคม พ.ศ. .... ซึ่งการปรับเพดานค่าจ้างในครั้งนี้เป็นการดำเนินการตามแนวทางการพัฒนาระบบประกันสังคมอย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางรายได้และเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้แก่ผู้ประกันตนในทุกมิติ ทั้งในกรณีเจ็บป่วย ว่างงาน ทุพพลภาพ คลอดบุตร ตลอดจนกรณีชราภาพ โดยการปรับขึ้นเพดานค่าจ้างจะดำเนินการเป็น 3 ระยะ เพื่อให้เกิดความเหมาะสมและลดผลกระทบต่อผู้ประกันตนและนายจ้าง โดยแบ่งดังนี้



          - ระยะที่ 1 (ปี พ.ศ.2569–2571) เพดานค่าจ้างสูงสุด 17,500 บาท เงินสมทบสูงสุด 875 บาทต่อเดือน



          - ระยะที่ 2 (ปี พ.ศ.2572–2574) เพดานค่าจ้างสูงสุด 20,000 บาท เงินสมทบสูงสุด 1,000 บาทต่อเดือน



          - ระยะที่ 3 (ปี พ.ศ.2575 เป็นต้นไป) เพดานค่าจ้างสูงสุด 23,000 บาท เงินสมทบสูงสุด 1,150 บาทต่อเดือน



          ทั้งนี้ จากการปรับเพดานค่าจ้างระยะที่ 1 (ปี พ.ศ.2569–2571) จะทำให้ผู้ประกันตนได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มขึ้นในหลายกรณี ได้แก่



          - เงินทดแทนกรณีเจ็บป่วย สูงสุด 7,500 บาทต่อเดือน เพิ่มเป็น 8,750 บาทต่อเดือน



          - เงินทดแทนกรณีทุพพลภาพ สูงสุด 7,500 บาทต่อเดือน เพิ่มเป็น 8,750 บาทต่อเดือน



          - เงินทดแทนกรณีว่างงาน สูงสุด 7,500 บาทต่อเดือน เพิ่มเป็น 8,750 บาทต่อเดือน



          - เงินสงเคราะห์กรณีคลอดบุตร 22,500 บาทต่อครั้ง เพิ่มเป็น 26,250 บาทต่อครั้ง



          - เงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิต 90,000 บาท เพิ่มเป็น 105,000 บาท



          - เงินบำนาญในกรณีส่งเงินสมทบครบ 15 ปี สูงสุด 3,000 บาทต่อเดือน เพิ่มเป็น 3,500 บาทต่อเดือน



          - เงินบำนาญในกรณีส่งเงินสมทบครบ 25 ปี สูงสุด 5,250 บาทต่อเดือน เพิ่มเป็น 6,125 บาทต่อเดือน



          การปรับเพดานค่าจ้างของสำนักงานประกันสังคมในครั้งนี้จะช่วยเสริมสร้างหลักประกันด้านรายได้ให้สอดคล้องกับระดับค่าจ้างในปัจจุบัน และช่วยให้ผู้ประกันตนได้รับสิทธิประโยชน์ที่เพิ่มขึ้นอย่างเหมาะสม โดยสำนักงานประกันสังคมจะดำเนินการเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานลงนามและประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป



 



 #ปรับเพดานเงินประกันสังคม



Cr:สำนักงานประกันสังคมกระทรวงแรงงาน 

ข่าวทั้งหมด

X