ทำเนียบขาวปกป้องกองทัพสหรัฐฯโจมตีเรือขนยาเสพติดจากเวเนฯชอบด้วยกฎหมาย

          กรณีกองทัพเรือสหรัฐฯโจมตีเรือลำหนึ่งของเวเนซุเอลาที่ถูกกล่าหาว่าลักลอบขนยาเสพติดมุ่งหน้ายังสหรัฐฯเมื่อวันที่ 2 ก.ย.โดยการโจมตีระลอกแรก มีผู้เสียชีวิต 9 ราย มีผู้รอดชีวิต 2 คน แต่การโจมตีซ้ำในระลอกที่ 2 ทำให้ลูกเรือทั้ง 2 รายเสียชีวิต โดยตัวเลขรวมของผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 11 ราย ทำให้ถูกสมาชิกสภาคองเกรสสหรัฐฯวิจารณ์เรื่องการโจมตีเวเนซุเอลาโดยไม่ขออนุมัติจากสภาก่อน โดยเฉพาะการโจมตีผู้รอดชีวิต ชอบด้วยกฎหมายระหว่างประเทศ หรือไม่

          นางแคโรไลน์ เลวิตต์ โฆษกทำเนียบขาวของสหรัฐฯแถลงเมื่อวานนี้(1 ธ.ค.)ปกป้องการตัดสินใจของ พล.ร.อ.แฟรงค์ แบรดลีย์ ผู้บัญชาการกองปฏิบัติการพิเศษของกองทัพเรือสหรัฐฯในการโจมตีเรือลักลอบขนยาเสพติดจากเวเนซุเอลาในเดือนก.ย.ว่า พล.ร.อ.แบรดลีย์ ได้ขออนุมัติจากนายพีท เฮกเซธ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ตามขั้นตอนของกฎหมาย ก่อนสั่งโจมตีเรือขนยาเสพติดจากเวเนซุเอลา เป็นการกระทำที่ชอบด้วยกฎหมาย อีกทั้งเป็นการโจมตีในน่านน้ำสากล เพื่อปัองกันตนเองและปกป้องผลประโยชน์ของสหรัฐฯ

         ที่ผ่านมา มีชาวอเมริกันเสียชีวิตนับหมื่นคนต่อปีจากการเสพยาเสพติด นอกจากนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์เชื่อมั่นในการทำงานของนายเฮกเซธ แม้ว่านายทรัมป์ยอมรับว่าไม่เห็นด้วยกับการสั่งโจมตีครั้งที่ 2 ยังเรือขนยาเสพติดจากเวเนซุเอลาในเดือนก.ย.

         แต่เรื่องนี้จุดชนวนให้เกิดกระแสวิจารณ์จากนักการเมืองทั้งจากพรรครีพับลิกัน พรรครัฐบาลและพรรคเดโมแครต พรรคฝ่ายค้าน รวมถึงอดีตนายทหารที่เรียกคำสั่งนี้ว่า ผิดกฎหมายอย่างชัดแจ้งและอาจจะเข้าข่ายก่ออาชญากรรมสงคราม เนื่องจากกฎหมายสงครามห้ามโจมตีผู้ประสบภัยทางทะเล เว้นแต่มีพฤติกรรมรุกราน เป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ ขณะเดียวกัน สมาชิกสภาคองเกรสจากทั้งสองพรรคเริ่มตั้งคณะกรรมการสอบสวนและเตรียมเชิญเจ้าหน้าที่กลาโหมที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการสภาฯในเร็วๆนี้

#สหรัฐปกป้อง

#การโจมตีเรือขนยาเสพติดเวเนซุเอลา

ที่มา: รอยเตอร์, เอ็นบีซีนิวส์