ปตท.-ส.อ.ท.เสวนากำหนดทิศทาง เดินหน้าขับเคลื่อนประเทศ ด้วยพลังงานที่ยั่งยืน

วันนี้, 19:54น.


          บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และกลุ่มอุตสาหกรรมโรงกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ร่วมกันจัดงานสัมนา 2025 The Annual Petroleum Outlook Forum 'Shaping the Future in an Uncertainty World through Sustainable Pathway : ร่วมกำหนดทิศทาง ข้ามผ่านยุคท้าทาย ด้วยพลังงานที่ยั่งยืน‘ ซึ่งจัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 14 เพื่อนำเสนอบทวิเคราะห์และแนวโน้มทิศทางราคาน้ำมัน โดยทีมนักวิเคราะห์สถานการณ์น้ำมัน กลุ่ม ปตท. หรือ PRISM Experts



          ดร.คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ความร่วมมือในการจัดสัมนาดังกล่าว ช่วยให้เกิดการแบ่งปันข้อมูล แลกเปลี่ยนมุมมองจากภาครัฐและเอกชน สถานการณ์พลังงานของโลกในปัจจุบัน กำลังเผชิญกับความไม่แน่นอนในหลายปัจจัย ทั้งด้านเศรษฐกิจ ภูมิรัฐศาสตร์ และสิ่งแวดล้อม ถือเป็นความท้าทายของทุกภาคส่วน ในการปรับตัวเพื่อเปลี่ยนผ่านสู่ยุคพลังงานสะอาด จึงเป็นที่มาของแนวคิดการจัดงานในปีนี้ คือ ‘Shaping the Future in an Uncertainty World through Sustainable Pathway : ร่วมกำหนดทิศทาง ข้ามผ่านยุคท้าทาย ด้วยพลังงานที่ยั่งยืน’



          สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ ‘ปตท. แข็งแรงร่วมกับสังคมไทย และเติบโตในระดับโลกอย่างยั่งยืน’



          ด้านนางรุ่งนภา จันทร์ชูเกียรติ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมโรงกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม ส.อ.ท. กล่าวว่า ในปี 2025 กลุ่มโรงกลั่นฯ ของประเทศไทย ยังคงเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน โดยเสริมความพร้อมด้านการจัดหาน้ำมันดิบให้รองรับความผันผวนและความตึงเครียดระหว่างประเทศ เพื่อให้การผลิตมีเสถียรภาพและเพียงพอต่อความต้องการใช้ในประเทศ



          พร้อมปรับตัวเพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน เดินหน้าขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่ยุค ‘พลังงานอนาคต’ อย่างต่อเนื่อง โดยพัฒนาเชื้อเพลิงทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น น้ำมันการบินยั่งยืน (SAF) พร้อมสนับสนุนเทคโนโลยีที่เกี่ยวเนื่องกับการลดการปล่อยคาร์บอน อาทิ CCS (Carbon Capture and Storage : การดักจับและกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศ) รวมถึงการพัฒนาบทบาทของไฮโดรเจนในฐานะพลังงานสะอาด เพื่อยกระดับความสามารถในการลดคาร์บอนของประเทศ



          “ทางกลุ่มฯ ยังคงทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อผลักดันการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานอย่างเป็นรูปธรรม และบรรลุเป้าหมาย Net Zero ในปี 2050 ผ่านเส้นทางการพัฒนาที่สะอาด มั่นคง และรองรับเศรษฐกิจสีเขียวของประเทศไทย”





          ทั้งนี้ ทีมนักวิเคราะห์สถานการณ์น้ำมัน กลุ่ม ปตท. (PRISM Experts) กล่าวภายในงานถึงเศรษฐกิจโลกว่า กำลังเผชิญแรงกดดัน 2 ด้าน ทั้งจากอุปสงค์น้ำมันที่อ่อนแอเพราะผลกระทบจากกำแพงภาษีของสหรัฐอเมริกา และการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด ประกอบกับอุปทานจากประเทศกลุ่ม OPEC+ และ Non-OPEC+ ที่เพิ่มกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง ทำให้อุปทานล้นตลาด *จึงคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในปี 2025 จะเคลื่อนไหวในกรอบ 60-70 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล



          ด้านผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) มีความรุนแรงขึ้น ทำให้ประเทศต่าง ๆ เร่งเปลี่ยนผ่านสู่ Net Zero สำหรับประเทศไทย ปรับเป้าหมาย Net Zero เร็วขึ้น จากปี 2065 เป็นปี 2050 ตั้งเป้าพลังงานหมุนเวียนมากกว่า 50% มีการใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงหลักในการเปลี่ยนผ่าน ควบคู่ไปกับการใช้ CCS ในการช่วยลดคาร์บอน ขณะที่น้ำมันยังคงมีบทบาทสำคัญต่อความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ



          พร้อมเดินหน้าผลักดันเทคโนโลยีใหม่ Hydrogen และ SMR (Small Modular Reactor : โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดเล็กแบบโมดูลาร์ ที่มีกำลังผลิตไฟฟ้าไม่เกิน 300 เมกะวัตต์) มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรม การขนส่ง และการผลิตไฟฟ้า



           “หัวใจสำคัญของการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน คือ การสร้างสมดุล ระหว่างการใช้พลังงานฟอสซิลและการส่งเสริมพลังงานสะอาด เพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและรองรับการเติบโตในอนาคต”





           ทั้งนี้ ประเทศไทยต้องเร่งดำเนินการใน 4 ด้านหลัก ประกอบด้วย การปรับปรุงกฎระเบียบให้ทันสมัยและใช้ได้จริง การผลักดันการลงทุนสีเขียว การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานเพื่อลดต้นทุน และการสร้างความร่วมมือจากทุกภาคส่วน



          ภายในงาน ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ร่วมบรรยายพิเศษในหัวข้อ ‘Shifting Tides: Navigating Economic Trends in Global, Asia and Thailand’



          และเวทีเสวนา ‘Future Energy of Thailand : Shaping the New Landscape in an Uncertainty World’ โดยมี ดร.พิรุณ สัยยะสิทธ์พานิช อธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม, นายรัฐกร กัมปนาทแสนยากร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ความยั่งยืนองค์กร บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน), นายรวี บุญสินสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) และ ศ.ดร.พิสุทธิ์ เพียรมนกุล รองคณบดีด้านความยั่งยืนและการมีส่วนร่วมของสังคม คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิยาลัย และผู้อำนวยการสถาบันคาร์บอนเพื่อความยั่งยืน (CBiS) ร่วมแบ่งปันองค์ความรู้และมุมมองในการขับเคลื่อนนโยบายด้านพลังงานสะอาดของประเทศไทยให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งไปพร้อมกันอย่างยั่งยืน





          โดยอธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ระบุว่า ประเทศไทยยังคงต้องพิจารณาการบังคับใช้กฎหมาย โดยเฉพาะร่าง พ.ร.บ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ว่าจะมีความรวดเร็วในการบังคับใช้ และความเข้มงวดมากน้อยเพียงใด เพื่อให้ไทยบรรลุเป้าหมาย Net Zero ตามที่ประกาศไว้ได้ในปี 2050



          ส่วนการขอรับการสนับสนุนจากต่างประเทศ จะเน้นการพัฒนาเทคโนโลยีที่ต้องลงทุนสูง



          อย่างไรก็ตาม แผนการดำเนินงานทั้งหมด ตนเองได้นำเสนอกระทรวงพลังงานเรียบร้อยแล้ว เพื่อนำไปสู่การวางแผนและกำหนดนโยบาย ด้วยจุดหมาย ให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันได้ในอนาคต เพราะถ้าเราไม่พร้อม ก็แพ้



 



#ปตท



#พลังงานสะอาด



 

ข่าวทั้งหมด

X