ทุนจีนเทาขยายอิทธิพลในเรือนจำกรุงเทพมหานคร นายยุทธนา นาคเรืองศรี รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ รักษาการ ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงกรณีมีข่าวพบภาพ บอสกันต์ หรือ กันต์ กันตถาวร โผล่ในวงจรปิดในเหตุเจ้าหน้าที่เรือนจำเอื้อประโยชน์ผู้ต้องขังกลุ่มจีนเทาและห้องลับในเรือนจำว่า เบื้องต้นยังไม่มีข้อมูลดังกล่าว ในฐานะตนได้รับมอบหมายให้เป็นรักษาการผู้บัญชาการเรือนจำ เพื่อเข้าจัดระเบียบให้เกิดความเรียบร้อย ตนก็จะไปสอบถามข้อเท็จจริงกับนายกันต์ ซึ่งปัจจุบันถูกคุมขังอยู่ที่แดน 1 ของเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เพื่อเชื่อมข้อมูลไปให้กับคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เมื่อมีข้อมูลใดที่สื่อเปิดประเด็น เราก็จะตรวจสอบให้กระจ่างที่สุด
สำหรับปฏิบัติการจู่โจมค้นเมื่อวันที่ 16 พ.ย.ที่ผ่านมา ประกอบด้วย 3 ทีม ได้แก่ ทีมเทคนิค, ทีมตรวจค้น และทีมสอบปากคำ เบื้องต้นเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมด ทีมเทคนิค นำไปตรวจสอบเพิ่มทั้งหมด บางส่วนถูกลบและได้กู้กลับมา จึงต้องรอผลการสอบสวนให้รอบด้าน
ทั้งนี้ มีรายงานข่าวจากกรมราชทัณฑ์ พบว่าวงจรปิดที่รวบรวมมาตรวจสอบทั้งหมดมีบันทึกภาพผู้เกี่ยวข้องในหลายพื้นที่ในแต่ละวัน โดยเบื้องต้นมีการตรวจดูภาพในวันที่ 16 พ.ย. ตั้งแต่ก่อน 9.00 น. จนถึงช่วงเวลาจู่โจม 10.30 น. ซึ่งช่วงดังกล่าวไม่ปรากฏภาพนายกันต์ ส่วนจะมีภาพนายกันต์โผล่วงจรปิดที่จุดไหน วันใดบ้าง ต้องตรวจสอบ
ในส่วนผู้ต้องขังจีนเทา 2 รายที่พบพร้อมกับหญิงสาวจีนขณะจู่โจมค้น ได้ถูกย้ายไปขังที่เรือนจำเขาบิน ซึ่งเป็นเรือนจำความมั่นคงสูง หรือ ซูเปอร์แมกซ์ โดยหนึ่งคนเป็นผู้ต้องขังระหว่างรอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน และอีกคนเป็นผู้ต้องคดีปลอมแปลงเอกสารราชการ หรือปลอมบัตรประชาชน
สำหรับในกรณีห้องลับใต้บันไดที่ถูกใช้เป็นสถานที่บำเรอรักให้กับผู้ต้องขังจีนเทานั้น พบว่ามีเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดในการควบคุมและปฏิบัติต่อผู้ต้องขัง จึงได้ดำเนินการย้ายเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องรวม 15 ราย ประกอบด้วย ผู้บัญชาการเรือนจำฯ เจ้าหน้าที่ผู้คุม และหัวหน้าฝ่ายควบคุมแดนไปก่อนแล้ว ดังนั้น รวมมีเจ้าหน้าที่ของเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครที่เกี่ยวพันกับเรื่องอื้อฉาว และถูกย้ายให้ไปปฏิบัติหน้าที่ราชการยังที่อื่นไว้ก่อน รวมทั้งสิ้น 34 ราย
ข่าวทั้งหมด