สหรัฐฯ ขาดดุลการค้าลดลงเกือบร้อยละ 24 ในเดือนสิงหาคม

วันนี้, 02:05น.


          กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รายงานตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐฯลดลงร้อยละ 23.8 สู่ระดับ 59,600 ล้านดอลลาร์ในเดือนสิงหาคม (2568) ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะอยู่ระดับ 61,300 ล้านดอลลาร์ จากที่ในเดือนกรกฎาคมอยู่ที่ระดับ 78,200 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นช่วงที่บริษัทสหรัฐฯ กำลังเร่งกักตุนสินค้า ก่อนที่มาตรการภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม (2568)



          การนำเข้าลดลงร้อยละ 5.1 สู่ระดับ 340,400 ล้านดอลลาร์ ขณะที่การส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.1 สู่ระดับ 280,800 ล้านดอลลาร์



          อย่างไรก็ตาม การขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ ยังคงเพิ่มขึ้นในปี 2568 โดยอยู่ที่ 713,600 ล้านดอลลาร์จนถึงเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้นร้อยละ 25 จากระดับ 571,100 ล้านดอลลาร์ในช่วงเดือนมกราคม-สิงหาคม 2567



          นายบิล อดัมส์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารโคเมริกา (Comerica Bank) วิเคราะห์ว่าแม้ว่ารายงานฉบับนี้จะค่อนข้างล้าสมัย เนื่องจากการปิดหน่วยงานของรัฐบาลลาง ทำให้รายงานเผยแพร่ล่าช้าไปกว่า 7 สัปดาห์ แต่ก็เป็นหลักฐานที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจกำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในไตรมาสที่สาม นอกจากนี้ มาตรการภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีทรัมป์ ยังเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ สูงกว่าเป้าหมายที่ร้อยละ 2 ความไม่พอใจของผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่มีต่อค่าครองชีพที่สูง ส่งผลให้พรรคเดโมแครตได้รับชัยชนะอย่างถล่มทลายในการเลือกตั้งวันที่ 4 พฤศจิกายน (2568) ประธานาธิบดีจึงยอมลดอัตราภาษีศุลกากรสินค้าประเภทอาหารหลายรายการ



          นอกจากนี้ มาตรการภาษีศุลกากรยังเผชิญกับการท้าทายทางกฎหมาย เมื่อผู้พิพากษา ตั้งประเด็นคำถามเกี่ยวกับอำนาจของประธานาธิบดีในการบังคับใช้นโยบายโดยไม่ผ่านกระบวนการทางรัฐสภา และกำหนดอัตราภาษีศุลกากรสินค้านำเข้าส่วนใหญ่ในระดับสูงภายใต้การประกาศภาวะฉุกเฉินระดับชาติ



...



#เศรษฐกิจ



#สหรัฐอเมริกา



 

ข่าวทั้งหมด

X