'อนุทิน’เผย สหรัฐ พร้อมลดภาษีอีก 2 % หากเร่งกู้ทุ่นระเบิดเร็วที่สุด

วันนี้, 07:09น.


           นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการพูดคุยผ่านทางโทรศัพท์กับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา และนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ว่าได้มีการประเมินคำพูดหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ไม่ต้องประเมิน เพราะประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาเป็นคนพูดตรงไปตรงมา จากการพูดคุยนั้นก็มีการพูดแบบเปิดเผย ไม่มีอะไรแอบแฝง และไม่ได้มีการต่อรองใดๆ ทั้งสิ้น เพียงแค่แจ้งว่าสหรัฐต้องการเห็นอะไรอย่างที่ได้พูดกับตน กังวลว่ามีความกังวล เรื่องการเก็บกู้ทุ่นระเบิด เนื่องจากถ้ากัมพูชาละเมิดปฏิญญาเพื่อนำไปสู่สันติภาพ ไทยก็จะระงับการดำเนินการตามปฏิญญา ซึ่งคำว่าระงับไม่ใช่การยกเลิก การเก็บกู้ในการตัดสินใจของไทย และการที่กัมพูชาระบุว่า พร้อมที่จะให้ไทยเข้าไป แต่ตอนนี้ไทยเข้าไปเก็บกู้ทุ่นระเบิดตามหลักมนุษยธรรม (Humanitarian Demining)



          ทั้งนี้ ตรงกับสิ่งที่ประธานาธิบดีทรัมป์ต้องการ ดังนั้นถือว่าตรงนี้ก็เคลียร์แล้ว และทางสหรัฐก็แฮปปี้ ซึ่งสหรัฐจะไปพูดคุยกับฝ่ายกัมพูชาว่าอย่าให้มีการขัดขวาง และให้เร่งกู้ทุ่นระเบิดให้เร็วที่สุด เป็นไปตามที่ตนได้เขียนรายงานต่อผู้นำสหรัฐว่า หากเก็บกู้เร็วเท่าไหร่ ตนก็จะให้ทางสหรัฐลดภาษีนำเข้าให้ประเทศไทย 2% ซึ่งมองว่าเป็นหยอกหรือไม่ ตนไม่รู้ แต่การที่คนระดับนี้มาพูดคุยด้วย เราก็ต้องเร่งทำในส่วนของเรา



          สื่อถามว่า นายกรัฐมนตรีได้บอกกับประธานาธิบดีสหรัฐหรือไม่ว่า การเจรจาภาษีกับเรื่องชายแดนไทย–กัมพูชา นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า ได้พูดและได้ถามประธานาธิบดีทรัมป์ และนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เรื่องนี้เป็นเรื่องของสองหน่วยงาน เพราะสำนักผู้แทนการค้าสหรัฐ เป็นผู้ออกหนังสือให้ระงับการเจรจาก่อน ซึ่งเกิดขึ้นก่อนที่พูดคุยกับประธานาธิบดีทรัมป์ แต่ขออย่าซีเรียสกับรายละเอียด เรื่องแบบนี้สามารถปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลา คำพูดนายกฯ ปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ ซึ่งการปรับเปลี่ยนนั้นต้องเกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศของเรา เรื่องนี้ต่างหากที่สำคัญ เราต้องทำให้ตรงกับสถานการณ์ให้มากที่สุด ไม่ใช่บอกว่าไปในพื้นที่อันตราย แต่มีทุ่นระเบิด แต่ฝ่ายไทยก็ต้องไปอยู่ดี แบบนี้ไม่ได้ เราก็ต้องทำให้ตรงกับสถานการณ์ให้มากที่สุด



           และนับตั้งแต่ยุติปฏิญญากัวลาลัมเปอร์ กัมพูชาได้มาติดต่อขอโทษกับเหตุการณ์ดังกล่าวหรือไม่ นายอนุทินระบุว่า รัฐบาลได้แจ้งความประสงค์ไปแล้ว ตอนนี้ได้แสดงความเสียใจมาแล้ว เหลือแต่การขอโทษ หากกัมพูชายังคงแสดงความเป็นปรปักษ์อยู่ ไทยยินยอมจะจับมือด้วยหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า กองทัพบอกแล้วว่าเรื่องการสัมผัสมือเป็นมารยาท เหมือนที่ ตนเจอฝ่ายค้านก็ยิ้มและยกมือไหว้ทุกคน เพราะเป็นเรื่องมารยาท แต่หลักการก็มีกลับมาดำเนินการตามปฏิญญาได้ ก็ต่อเมื่อความเป็นปรปักษ์ของกัมพูชาไม่เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ รัฐบาลต้องเป็นไปตามนั้น จะเห็นเป็นอย่างอื่นก็ไม่ได้



 

ข่าวทั้งหมด

X