ไทย แถลง เขมรปล่อยข่าวปลอม กล่าวหาทหารไทย ล่วงละเมิดทางเพศหญิง กัมพูชา

วันนี้, 07:08น.


          หลังปรากฏการนำเสนอข่าวผ่านสื่อมวลชน รวมถึงแถลงการณ์จากหน่วยงานภาครัฐ องค์กรภาคประชาสังคม และองค์กรสิทธิมนุษยชนของกัมพูชาอย่างต่อเนื่อง ในห้วงวันที่ 17 - 18 พฤศจิกายน 2568 โดยมีการกล่าวหาว่า เจ้าหน้าที่ทหารพรานไทย จำนวน 7 นาย ได้กระทำการหน่วงเหนี่ยวกักขัง ทำร้ายร่างกาย ปล้นทรัพย์ และล่วงละเมิดทางเพศแรงงานชาวกัมพูชา ณ บริเวณชายแดนจังหวัดพระตะบอง นั้น



          พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องแก่สาธารณชน ดังนี้ จากการตรวจสอบข้อเท็จจริง ยืนยันได้ชัดเจนว่าเป็น “ข่าวปลอม” (Fake News) ซึ่งทันทีที่ปรากฏข่าวดังกล่าว ฝ่ายไทยได้สั่งการให้หน่วยทหารที่รับผิดชอบพื้นที่ตลอดแนวชายแดนไทย–กัมพูชา ติดกับ จ.พระตะบอง ได้แก่ กองกำลังบูรพา (จ.สระแก้ว) และประสานงานร่วมกับ กองทัพเรือ (จ.จันทบุรี และ จ.ตราด) ดำเนินการตรวจสอบอย่างเร่งด่วน โดยสอบสวนทหารพรานและชุดปฏิบัติการลาดตระเวนทุกชุดที่ปฏิบัติหน้าที่ในคืนวันที่ 15 พฤศจิกายน 2568 (ตามเวลาที่ถูกกล่าวหา) ผลปรากฏว่า ไม่พบเหตุการณ์ตามที่ถูกกล่าวหา และไม่มีการตรวจพบหรือจับกุมกลุ่มแรงงานต่างด้าว จำนวน 13 คน ในวันและเวลาดังกล่าวแต่อย่างใด



           ข้อสังเกตต่อขบวนการบิดเบือนข้อมูลข่าวสาร (Information Operation) โดยกองทัพบกมีความกังวลเป็นอย่างยิ่งต่อรูปแบบการนำเสนอข่าวและท่าทีของฝ่ายกัมพูชา ซึ่งส่อเจตนาถึง “กระบวนการปฏิบัติการข่าวสาร” ที่มีการเตรียมการและประสานงานกันอย่างผิดสังเกต ทั้งในด้านความสอดประสานของเวลา โดยมีการออกแถลงการณ์โจมตีฝ่ายไทยอย่างพร้อมเพรียงจากหลายหน่วยงาน ได้แก่ กระทรวงแรงงานฯ กระทรวงวัฒนธรรมฯ สหภาพแรงงาน และคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนกัมพูชา (CHRC) ภายในระยะเวลาเพียง 1–2 วัน



          นอกจากนี้ ยังปรากฏการผลิตซ้ำชุดข้อมูลเดิม โดยทุกแถลงการณ์ใช้ข้อมูลเดียวกัน ซึ่งยังไม่ผ่านการพิสูจน์ข้อเท็จจริงร่วมกัน แต่กลับด่วนสรุปกล่าวโทษไทยและอ้างกฎหมายระหว่างประเทศ เพื่อมุ่งทำลายภาพลักษณ์ของประเทศไทยในเวทีโลก



          ที่สำคัญ ฝ่ายกัมพูชาใช้วิธีตัดตอนพยานหลักฐาน โดยอ้างว่าเหยื่อถูกปล่อยตัวกลับประเทศแล้ว จึงค่อยมาแจ้งเหตุ ทำให้ฝ่ายไทยไม่สามารถตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุหรือพิสูจน์ทราบตัวบุคคลได้ในทันที ซึ่งผิดวิสัยการปฏิบัติงานชายแดนปกติ ที่ต้องมีการประสานข้อมูลกันอย่างใกล้ชิด



          กองทัพบกขอยืนยันว่า ทหารพรานไทยยึดถือระเบียบวินัยและเคารพหลักสิทธิมนุษยชนอย่างเคร่งครัด การกล่าวหาทหารไทยในเรื่อง “ข่มขืน รีดไถ ทุบตี” อาจเป็นเพียงการให้ข้อมูลเท็จของบุคคลที่ทำทีเป็นผู้เสียหาย ที่มีลักษณะมีกลุ่มกระบวนการคอยใส่ร้ายป้ายสี คอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง มีการแบ่งหน้าที่กันทำ เป็นการสมคบคิดกันจัดฉากใส่ร้ายทหารไทย



          ทั้งนี้ อาจเพียงเพื่อต้องการจะเบี่ยงเบนประเด็นความสนใจเรื่องทุ่นระเบิด และเรื่อง Cyber Scam ที่กำลังถูกจับจ้องจากนานาชาติและสังคมโลก



          สำหรับกรณีที่รองโฆษกกระทรวงมหาดไทยกัมพูชา ระบุว่า คำชี้แจงของไทยคือการบิดเบือนนั้น ขอเรียนว่า “ความจริงต้องพิสูจน์ด้วยพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่การระดมออกแถลงการณ์โจมตีฝ่ายเดียว” การด่วนสรุปโดยไม่ผ่านกลไกทวิภาคีใดๆ สะท้อนให้เห็นถึงเจตนาที่ไม่บริสุทธิ์



          ฝ่ายไทยคงจะไม่ยอมรับการกระทำอันใดที่ยังมีลักษณะเข้าข่ายถึงความเป็นปฏิปักษ์ต่อกันในลักษณะเช่นนี้ และขอเรียกร้องให้ฝ่ายกัมพูชาได้มีความซื่อตรง แสดงความจริงใจต่อการแก้ปัญหา และยุติการใช้กลไกของรัฐมาสร้างและสนับสนุนการสร้างเรื่องราวที่เป็นเท็จ เพื่อใช้หลอกลวงนานาชาติและสังคมโลก



 



#เขมรลวงโลก

ข่าวทั้งหมด

X