ธปท.เผยสินเชื่อแบงก์พาณิชย์ Q3/68 หดตัว 1.0% ใกล้เคียงไตรมาสก่อน

วันนี้, 18:44น.


          นายสมชาย เลิศลาภวศิน ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยภาพรวมระบบธนาคารพาณิชย์ ไตรมาส 3 ปี 2568 ว่า ระบบธนาคารพาณิชย์มีความมั่นคงและมีเสถียรภาพ โดยมีเงินกองทุน เงินสำรอง และสภาพคล่องอยู่ในระดับสูง ขณะที่สินเชื่อระบบธนาคารพาณิชย์ (รวมเครือ) ไตรมาส 3 ปี 2568 โดยรวมยังหดตัวอยู่ที่ -1.0% ใกล้เคียงไตรมาสก่อนหน้า จากสินเชื่อธุรกิจ SMEs และสินเชื่ออุปโภคบริโภคที่ยังหดตัวต่อเนื่อง ตามความเสี่ยงด้านเครดิตที่ยังอยู่ในระดับสูง ขณะที่สินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ขยายตัวเล็กน้อย



          ทั้งนี้ ความต้องการสินเชื่อของธุรกิจขนาดใหญ่ลดลง ในขณะที่การชำระคืนหนี้เพิ่มขึ้น ด้านคุณภาพสินเชื่อ NPL (Stage 3 ) ในภาพรวมค่อนข้างทรงตัว จาก New NPL ที่ชะลอลงเป็นสำคัญ ส่งผลให้ยอดคงค้างสินเชื่อ Stage 3 ไตรมาส 3 ปี 2568 ปรับลดลงมาอยู่ที่ 544.0 พันล้านบาท



           สำหรับสัดส่วน NPL ต่อสินเชื่อรวม ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 2.94% ส่วนหนึ่งจากผลของฐานสินเชื่อที่หดตัว สำหรับสินเชื่อ Stage 2 ปรับเพิ่มขึ้น ตามการจัดชั้นเชิงคุณภาพจากปัจจัยเฉพาะรายของลูกหนี้ธุรกิจขนาดใหญ่ และส่วนหนึ่งจากการปรับชั้นดีขึ้นของ NPL ส่งผลให้สัดส่วน stage 2 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 7.24% อย่างไรก็ดี ธนาคารพาณิชย์ยังให้ความช่วยเหลือลูกหนี้อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งบริหารจัดการคุณภาพหนี้ ผลการดำเนินงานปรับลดลงจากระยะเดียวกันปีก่อน จากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่ลดลง ตามการหดตัวของสินเชื่อ และการปรับลดอัตราดอกเบี้ยให้กับลูกหนี้ ทั้งจากการปรับลดโดยธนาคาร และตามมาตรการ 'คุณสู้ เราช่วย'



          อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามภาวะการเงินที่ยังตึงตัวและความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ SMEs และครัวเรือนท่ามกลางเศรษฐกิจที่ยังชะลอลงจากผลกระทบของมาตรการภาษีสหรัฐฯ และรายได้ที่ฟื้นตัวช้า



          นายสมชาย ยังกล่าวถึงความช่วยเหลือภายใต้โครงการ 'คุณสู้ เราช่วย' ว่า มีส่วนช่วยบรรเทาภาระหนี้ของ SMEs และครัวเรือนกลุ่มเปราะบาง โดยสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อ GDP ไตรมาส 2 ปี 2568 อยู่ที่ 86.8% ต่อจีดีพี ปรับลดลงจากไตรมาสก่อนซึ่งอยู่ที่ 87.1% ต่อจีดีพี เป็นผลจากสินเชื่อภาคครัวเรือนที่ขยายตัวชะลอลงเป็นสำคัญ ขณะที่ภาคธุรกิจมีสัดส่วนหนี้สินต่อ GDP ลดลงตามการก่อหนี้ที่ลดลงเป็นสำคัญ



          ด้านความสามารถในการทำกำไรลดลงจากระยะเดียวกันปีก่อนเกือบทุกประเภทธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ตามภาวะตลาดที่อยู่อาศัยที่ชะลอตัว



 



 

ข่าวทั้งหมด

X