ไทยเรียกร้องเขมรต้องขอโทษ ระหว่างชี้แจงทูต-ผู้แทนองค์การระหว่างประเทศ ปมเขมรลอบวางระเบิด ทหารไทยบาดเจ็บ

วันนี้, 07:30น.


          เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2568 กระทรวงการต่างประเทศได้จัดการบรรยายสรุปแก่คณะทูตานุทูตต่างประเทศและผู้แทนองค์การระหว่างประเทศประจำประเทศไทย เพื่อชี้แจงเหตุการณ์การเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลโดยทหารไทย เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2568 บริเวณพื้นที่ห้วยตามาเรีย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ และท่าทีและการดำเนินการของไทยต่อเหตุการณ์ดังกล่าว  โดยมีนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธาน ร่วมด้วยนางเอกสิริ ปิณฑะรุจิ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ และนายปิยภักดิ์ ศรีเจริญ อธิบดีกรมเอเชียตะวันออก  โดยมีคณะทูตต่างประเทศและผู้แทนองค์การระหว่างประเทศในประเทศไทยเข้าร่วม 71 คน จาก 59 ประเทศ 1 องค์กร (สหภาพยุโรป) และ 4 องค์การระหว่างประเทศ 



          นายสีหศักดิ์ ย้ำว่า เหตุการณ์ ดังกล่าว ถือเป็น ‘ความถดถอยสำคัญ’ ต่อการลงนามถ้อยแถลงร่วมระหว่างไทยกับกัมพูชา เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2568 และการนำไปสู่สันติภาพอย่างยั่งยืนระหว่างสองประเทศ  ยังเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย โดยตนได้หารือกับนายปรัก สุคน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 10 และ 11 พฤศจิกายน 2568 เพื่อประท้วงต่อเหตุการณ์ดังกล่าวด้วยแล้ว ในการนี้ ไทยได้ส่งหนังสือประท้วงไปยังฝ่ายกัมพูชา และจะประท้วงไปยังประธานการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล และเลขาธิการสหประชาชาติ รวมถึงส่งหนังสือชี้แจงถึงสหรัฐอเมริกาและมาเลเซียในฐานะผู้สังเกตการณ์การลงนามถ้อยแถลงร่วมฯ ต่อไปด้วย 



          ด้านปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงว่า เหตุการณ์เหยียบทุ่นระเบิดทำให้กำลังพลไทยบาดเจ็บ 4 นาย หนึ่งนายบาดเจ็บรุนแรงถึงสูญเสียข้อเท้าขวา ทีมผู้เชี่ยวชาญพบเศษทุ่นระเบิด PMN-2 บริเวณหลุมระเบิด และพบทุ่นระเบิด PMN-2 ใหม่อีก 3 ทุ่นรอบพื้นที่ ซึ่งไทยไม่มีทุ่นระเบิดฯ ชนิดนี้ ทำให้ชี้ชัดว่าเป็นการวางโดยฝ่ายกัมพูชาพร้อมย้ำว่า  ไทยยืนหยัดเพื่อสันติภาพ พร้อมทั้งยึดมั่นต่อการปฏิบัติตามถ้อยแถลงร่วมกับกัมพูชามาโดยตลอด แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแสดงถึงความไม่จริงใจของกัมพูชา ทำให้ไทยต้องระงับการดำเนินการตามถ้อยแถลงร่วมฯ และชะลอการปล่อยตัวเชลยศึก 18 คนออกไป



          อย่างไรก็ตาม การเก็บกู้ทุ่นระเบิดฯ และปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์ในดินแดนอธิปไตยของไทยจะยังดำเนินต่อไป ทั้งนี้ ไทยเรียกร้องให้กัมพูชาออกคำขอโทษอย่างเป็นทางการ ตรวจสอบเหตุการณ์ แสดงความรับผิดชอบ และดำเนินมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำขึ้นอีก



 



#ไทยกัมพูชา 

 

ข่าวทั้งหมด

X