กรมพัฒนาธุรกิจการค้า หารือร่วมพาณิชย์จังหวัด 11 จังหวัดพื้นที่เสี่ยงสูง เดินหน้ามาตรการเชิงรุก ปราบปรามการประกอบธุรกิจที่ใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง (นอมินี) โดยปรับแนวทางการตรวจสอบ และยกระดับประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมาย พร้อมประกาศเอาจริงกับนิติบุคคลที่ไม่ส่งเอกสารประกอบการลงบัญชีให้กรมตรวจสอบ

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า ได้มีประชุมร่วมกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัด 11 จังหวัด ได้แก่ ชลบุรี สมุทรปราการ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรสาคร เชียงใหม่ สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต ประจวบคีรีขันธ์ ระยอง และกระบี่ ที่มีข้อมูลว่ามีนิติบุคคลที่ประกอบธุรกิจความเสี่ยงสูง โดยใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง (นอมินี) ใน 6 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่
1) ธุรกิจท่องเที่ยวและที่เกี่ยวเนื่อง อาทิ ภัตตาคาร ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก
2) ธุรกิจค้าที่ดิน อสังหาริมทรัพย์
3) ธุรกิจ e-Commerce ขนส่ง และคลังสินค้า
4) ธุรกิจโรงแรม รีสอร์ต
5) ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการเกษตร
6) ธุรกิจก่อสร้างทั่วไป
เพื่อชี้แจงแนวทางการคัดกรอง การตรวจสอบนิติบุคคลแบบพุ่งเป้าและเชิงลึก ตามแนวทางของกรม เพื่อให้กระบวนการตรวจสอบมีประสิทธิภาพเป็นไปในทิศทางเดียวกันและสามารถป้องกันการใช้ “นอมินี” ในการประกอบธุรกิจได้อย่างเป็นรูปธรรม พร้อมทั้งรับฟังปัญหา อุปสรรค และแลกเปลี่ยนข้อมูล รวมถึงแนวทางการตรวจสอบระหว่างกรมและสำนักงานพาณิชย์จังหวัด ในการป้องกันและปราบปรามการใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง (นอมินี) ให้มีประสิทธิภาพ โปร่งใส และเป็นธรรมยิ่งขึ้น ควบคู่กับการอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบธุรกิจที่ดำเนินธุรกิจโดยสุจริต และถูกต้องตามกฎหมาย
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า มีนโยบายที่ชัดเจน และเอาจริงกับการปราบปรามการใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง (นอมินี) เพราะพฤติกรรมดังกล่าวไม่เพียงแต่สร้างความเสียเปรียบให้กับผู้ประกอบการไทยที่สุจริต หากแต่ยังเป็นอุปสรรคต่อการแข่งขันที่เป็นธรรมในระบบเศรษฐกิจของประเทศด้วย โดยกรมจะเพิ่มความเข้มงวดกับการใช้ช่องว่างของกฎหมายหลบเลี่ยงการที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ กรมฯจะดำเนินการตรวจสอบเอกสารและข้อมูลที่อยู่ภายใต้ความรับผิดชอบอย่างเข้มงวด และจะดำเนินคดีกับนิติบุคคลที่ไม่ส่งเอกสารประกอบการลงบัญชีตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งเป็นการกระทำผิดกฎหมายเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบและมีความเสี่ยงต่อการเป็นนอมินี
ปัจจุบันกรมได้มีการพัฒนาระบบวิเคราะห์แนวโน้มพฤติกรรมของนิติบุคคล (Intelligence Business Analytics System : IBAS) ขึ้น เพื่อใช้สำหรับคัดกรองนิติบุคคลกลุ่มเสี่ยง และนำไปตรวจสอบในเชิงลึก ซึ่งจะคัดกรองนิติบุคคลในพื้นที่กรุงเทพมหานครและพื้นที่ในส่วนภูมิภาคไปพร้อมกัน
โดยกรมจะจัดทำรายชื่อและส่งข้อมูลนิติบุคคลกลุ่มเป้าหมายที่ผ่านการคัดกรองให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดช่วยตรวจสอบเพิ่มเติม และสำหรับนิติบุคคลกลุ่มเสี่ยงที่ผ่านการตรวจสอบแล้วพบว่ากระทำความผิดจริง กรมจะประสานส่งต่อข้อมูลให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
กรมฯจะเพิ่มความเข้มงวดในการปราบปรามนอมินี และมุ่งมั่นที่จะแก้ไขช่องโหว่ต่าง ๆ แต่ยังคงเน้นการอำนวยความสะดวกให้แก่ภาคเอกชน เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่โปร่งใส เป็นธรรม และสกัดกั้นผู้ที่ไม่สุจริต เพื่อให้ผู้ประกอบการไทยสามารถแข่งขันได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนในระบบเศรษฐกิจโลกต่อไป
#ปราบธุรกิจนอมินี
#กระทรวงพาณิชย์
Cr:กรมพัฒน่าธุรกิจการค้า
ข่าวทั้งหมด