*สปช.เห็นชอบร่างพ.ร.บ.สำคัญ3 ฉบับ/มีข้อเสนอให้ป.ป.ช.เปิดเผยบัญชีทรัพย์สิน-การเสียภาษี*

การประชุมสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ที่มีนายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธาน สปช.ทำหน้าที่ประธานในการประชุม เพื่อพิจารณารายงานเรื่องการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (รอบที่ 2 ) ร่าง พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารสาธารณะ  ร่างพ.ร.บ.การโฆษณาประชาสัมพันธ์ของภาครัฐ และร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลและประโยชน์ส่วนรวม ของคณะกรรมาธิการปฏิรูปการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ที่ประชุมลงมติเห็นชอบรายงานดังกล่าว และความเห็นข้อเสนอแนะไปที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ด้วยคะแนน 218 งดออกเสียง 7 ไม่ลงคะแนนเสียง 1  ที่ประชุมยังมีมติเห็นชอบหลักการและเหตุผล รวมถึงสาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ.ทั้ง 3 ฉบับเพื่อให้ กมธ.ปฏิรูปฯ พิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน

นายเชื้อ ฮั่นจินดา สมาชิก สปช. กล่าวว่า บุคคลที่มาทำหน้าที่ตรวจสอบร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลและประโยชน์ส่วนรวมคือคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ซึ่งเมื่อดูคุณสมบัติแล้วค่อนข้างน่าเป็นห่วง ทั้งเรื่องการเปิดบัญชีทรัพย์สินและการเสียภาษี จึงเห็นว่า ป.ป.ช. ควรเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว โดยกำหนดให้เป็น 2 เท่าของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ทั้งเรื่องการเปิดบัญชีทรัพย์สินและการเสียภาษี

นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธาน กมธ.ปฏิรูปฯ ป.ป.ช.กล่าวว่า กมธ. ได้จัดตั้งคณะกรรมการกำกับรัฐวิสาหกิจ และคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ รวมถึงการผลักดันให้มีการบรรจุหลักสูตรโตไปไม่โกงไว้ในหลักสูตรการศึกษาด้วย สำหรับร่าง พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารสาธารณะ มีการปรับปรุง พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 ที่จะต้องมีการกำหนดวิธีการและระยะเวลาในการเข้าถึงข้อมูลของรัฐอย่างชัดเจน หากเป็นข้อมูลเกี่ยวกับการเงินหรืองบประมาณของหน่วยงานรัฐที่กระทบกับสิทธิมนุษยชน ชุมชน และสิ่งแวดล้อม

นายประมนต์ กล่าวถึง ร่าง พ.ร.บ.การโฆษณาประชาสัมพันธ์ของภาครัฐ เสนอให้มีการจัดทำแผนงบประมาณของรัฐบาลและหน่วยงานของรัฐ รวมถึงจัดตั้งคณะกรรมการควบคุมการใช้งบประมาณเพื่อการโฆษณาประชาสัมพันธ์เพื่อให้เกิดความชัดเจน ทั้งนี้ ร่างพ.ร.บ.การโฆษณาประชาสัมพันธ์ของภาครัฐ ปัจจุบันยังไม่มีกฎหมายที่มีความชัดเจน จึงจะมีการปรับนิยามคำว่า เจ้าหน้าที่รัฐให้สอดคล้องกับอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการปราบปรามและป้องกันการทุจริตและกฎหมายอาญาที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม รวมถึงการห้ามผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง รับของขวัญ ของที่ระลึก หรือประโยชน์ที่สามารถคำนวณเป็นตัวเงินได้ และยังควบคุมถึงญาติของเจ้าหน้าที่รัฐด้วย