องค์คณะตุลาการ ศาลฏีกาสหรัฐฯเสียงแตก ปมทรัมป์ใช้อำนาจขึ้นภาษีการค้าทั่วโลก

วันนี้, 10:50น.


         ศาลฎีกาสหรัฐฯ ซึ่งประกอบด้วยองค์คณะตุลาการ 9 คน(สายอนุรักษ์นิยม 6 คนและสายเสรีนิยม 3 คน) นำโดยนายจอห์น โรเบิร์ตส์ ประธานศาฎกีกา นัดฟังคำแถลงด้วยวาจา เปิดไต่สวนคดีภาษีตอบโต้ทั่วโลกของรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยนายดี.จอห์น ซอเออร์ อัยการสูงสุดในฐานะตัวแทนของฝ่ายรัฐบาล ซึ่งเป็นผู้ร้อง เป็นผู้แถลง และนายนีล คัตยัล ทนายความ ซึ่งเป็นตัวแทนกลุ่มธุรกิจขนาดเล็กที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษี ผู้ถูกร้อง ร่วมแถลงเปิดคดี โดยศาลใช้เวลาไต่สวน 2 ชม.30 นาที โดยองค์คณะส่วนใหญ่แสดงความเห็นไปในทางเดียวกันว่า ประธานาธิบดีทรัมป์อาจใช้อำนาจเกินขอบเขต ในการประกาศเก็บภาษีศุลกากรกับบรรดาประเทศคู่ค้าทั่วโลกตั้งแต่เข้ามาบริหารประเทศสมัยที่ 2 เมื่อต้นปีนี้(2568)



          ทั้งนี้ ประเด็นหลักๆที่ศาลจะชี้ขาดคือ รัฐทรัมป์สามารถจะอ้างกฎหมายกฎหมายเศรษฐกิจฉุกเฉิน 1977 (IEEPA)ที่ให้อำนาจแก่ประธานาธิบดี ในฐานะผู้นำองค์กรฝ่ายบริหาร ตอบโต้ภัยคุกคามที่ไม่ปกติและร้ายแรง ให้มีอำนาจประกาศควบคุมการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ มาปรับใช้กับมาตรเก็บภาษีนำเข้าสินค้า(tariffs)ตามนโยบายของรัฐบาลทรัมป์ได้หรือไม่ ฝ่ายวิจารณ์ชี้ว่า ปัญหาขาดดุลการค้าไม่เข้าข่ายภาวะฉุกเฉินของชาติและนโยบายนี้ อาจขัดต่อหลัก Major Questions Doctrine คือ หลักการที่ศาลกำหนดให้หน่วยงานของรัฐไม่สามารถออกกฎระเบียบในเรื่องที่มีผลกระทบสำคัญทางเศรษฐกิจและสังคม หากไม่มีการอนุญาตอย่างชัดเจนจากรัฐสภา



          องค์คณะตุลาการสายเสรีนิยมทั้งสามคนมีความเห็นไปในทางเข้าข้าง กลุ่มธุรกิจขนาดเล็กที่เป็นโจทก์ฟ้องรัฐบาลทรัมป์ในตอนแรก ขณะที่องค์คณะตุลาการสายอนุรักษ์นิยมส่วนใหญ่ (4 คน) มีความเห็นไปในทางเข้าข้างรัฐบาลทรัมป์ แต่เสียงชี้ขาดสำคัญน่าจะอยู่ที่ผู้พิพากษาสายอนุรักษ์นิยมอีก 2 คนคือ นางเอมี โคนีย์ แบร์เรตต์ และนายนีล กอร์ซัส ซึ่งทั้งคู่ตั้งคำถามถึงความชอบธรรมในเรื่องนโยบายภาษีของรัฐบาลทรัมป์ในทำนองว่า เป็นการเพิ่มอำนาจให้กับฝ่ายบริหาร แต่ลดทอนอำนาจจากสภาคองเกรสในขณะเดียวกัน



          นักวิเคราะห์ ระบุว่า ผลของคดีนี้ ซึ่งคาดว่า ศาลจะมีคำชี้ขาดในอีกไม่กี่สัปดาห์หรือไม่กี่เดือนข้างหน้า อาจจะส่งผลกระทบครั้งใหญ่ในทางเศรษฐกิจเพราะเกือบครึ่งหนึ่งของสินค้าที่ประเทศคู่ค้ าส่งออกสินค้าเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ ต้องเสียภาษีนำเข้าในอัตราสูงขึ้นตามประกาศของรัฐบาลทรัมป์



          ขณะที่นายทรัมป์ ย้ำว่า ภาษีนำเข้าสินค้า เป็นหัวใจสำคัญของนโยบายเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ทั้งเห็นว่า คดีนี้มีผลสำคัญถึงขนาดชี้วัดความอยู่รอด หรือหายนะต่อความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจของภาคอุตสาหกรรม ตลอดถึงกระทบความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ



#ศาลฏีกาสหรัฐ



#เปิดไต่สวนคดีภ่าษีทรัมป์



ที่มา: Bloomberg, cnn

ข่าวทั้งหมด

X