สหรัฐฯเผยเครื่องบินขนสินค้าพุ่งชนโรงงานรีไซเคิลน้ำมันปิโตรเลียมขณะตก เกิดระเบิด-ไฟไหม้

          คืบหน้าเหตุเครื่องบินขนสินค้ารุ่น MD-11 ของบริษัท UPS ของสหรัฐฯที่บรรทุกน้ำมันจำนวน 38,000 แกลลอน ประสบอุบัติเหตุตก เกิดระเบิดหลายครั้ง มีเปลวไฟขนาดใหญ่ลุกไหม้เครื่องบิน หลังบินออกมาจากสนามบินนานาชาติมูฮัมหมัด อาลีในเมืองลุยส์วิลล์ เมื่อเวลา 17.15 น.ของวันอังคาร(4 พ.ย.)ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเช้าวันนี้(5 พ.ย.)ตามเวลาประเทศไทย ขณะมุ่งหน้าเมืองโฮโนลูลู รัฐฮาวาย มีผู้เสียชีวิต 7 ราย ประกอบด้วย ลูกเรือ 3 ราย และคนที่อยู่บนพื้นดินอีก 4 ราย และมีผู้บาดเจ็บ 11 คน ถูกนำตัวส่งยังโรงพยาบาล ส่วนเรื่องสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวน

         นายไบรอัน โอนีลล์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่ดับเพลิงของเมืองลุยส์วิลล์ เปิดเผยผลสอบสวนในเบื้องต้นว่า การที่เครื่องบินพุ่งชนโรงงานรีไซเคิลน้ำมันปิโตรเลียมขณะตก ทำให้เกิดระเบิด มีลูกไฟขนาดใหญ่ แต่ไม่ใช่การระเบิดของถังน้ำมันของโรงงาน แต่เป็นวาล์วระบายแรงดันทำงานตามปกติ เพื่อปลดปล่อยแรงดันส่วนเกินออกมา ซึ่งช่วยป้องกันไมให้ถังหรือท่อแตก ซึ่งถือว่า ระบบความปลอดภัยของโรงงานรีไซเคิลน้ำมันยังทำงานได้ดี แม้เกิดอุบัติเหตุรุนแรง  

         ส่วนคืบหน้าการดับเพลิงในจุดเกิดเหตุ นายโอนีลส์ กล่าวว่าเจ้าหน้าที่คุมเพลิงได้แล้ว แต่ยังมีคราบน้ำมันและเชื้อเพลิงอยู่ในบริเวณโดยรอบของโรงงาน คาดว่าต้องใช้เวลาอีกสักพักหนึ่ง จึงจะเคลียร์พื้นที่ได้ทั้งหมด เขาแถลงเรื่องนี้ หลังจากก่อนหน้านี้ นายแอนดี เบเชียร์ ผู้ว่าการัฐเคนทักกี กล่าวว่า โรงงานแห่งนี้ได้รับความเสียหายอย่างหนัก ถังเก็บก๊าซโพรเพน(หรือก๊าซไฮโดรคาร์บอนไวไฟ) และถังน้ำมันของโรงรีไซเคิลน้ำมัน รั่วไหล ทำให้เกิดไฟไหม้อย่างรวดเร็ว

         ด้านองค์การบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐฯ(FAA)เปิดเผยว่า คณะผู้เชี่ยวชาญจาก FAA พร้อมด้วยคณะกรรมการความปลอดภัยด้านการคมนาคมแห่งชาติสหรัฐฯ(NTSB)จะทำการสอบสวนเรื่องนี้ โดยมี NTSB เป็นหน่วยงานหลักในการสอบสวน ขณะที่ NTSB ระบุว่าทีมผู้เชี่ยวชาญไปยังจุดเกิดแล้วช่วงในวันนี้(5 พ.ย.)

#สหรัฐ

#เครื่องบินตก

ที่มา: cnn