ชาวบ้านหลายคนติดค้างอยู่บนหลังคาบ้าน หลังพายุถล่มฟิลิปปินส์ ดับ 5 ราย

04 พฤศจิกายน 2568, 17:12น.


          หลังจากพายุไต้ฝุ่น คัลแมกี พัดถล่มเกาะเซบูและเกาะเนโกรสทางภาคกลางของฟิลิปปินส์เมื่อเช้าวันนี้(4 พ.ย.)เวลา 08.00น.ด้วยความแรงลมสูงสุดที่ 185 กม.ต่อชม.ก่อน พายุพัดถล่มหมู่เกาะวิซายา เมื่อเวลา 14.00น.ด้วยความแรงลมสูงสุดที่ 180 กม.ต่อชม.มีฝนตกหนัก ลมแรง ต้นไม้และเสาไฟฟ้าหักโค่น ไฟฟ้าดับในบางท้องที่ ชาวบ้านหลายแสนคนต้องอพยพไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว หลายเมืองบนเกาะเซบูถูกน้ำท่วม ขณะเดียวกัน รถหลายคันถูกกระแสน้ำพัดลอยไปขณะแล่นอยู่บนถนนที่ถูกน้ำท่วม



          ทั้งนี้ ในรอบ 24 ชม.ก่อนพายุขึ้นฝั่ง มีฝนตกหนักในเมืองเซบู เมืองเอกของจังหวัดเซบู มีปริมาณฝน 183มม. สูงกว่าปริมาณฝนเฉลี่ยรายเดือนที่ 131มม.ตามรายงานจากสำนักพยากรณ์อากาศแห่งชาติของฟิลิปปินส์ ด้านนายโรน รามอส เจ้าหน้าที่สารสนเทศประจำจังหวัดเซบู เปิดเผยว่า เบื้องต้นพบผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 ราย  2 รายแรกที่เสียชีวิตจากการถูกต้นไม้ล้มทับในจังหวัดโบโฮลและผู้สูงอายุที่จมน้ำเสียชีวิตในจังหวัดเลเต



          ขณะที่ชาวบ้านหลายร้อยคนที่พักอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 6.9 บนเกาะเซบูช่วงปลายเดือนก.ย.ต้องอพยพไปยังพื้นที่ปลอดภัย หลังน้ำท่วมศูนย์พักพิงชั่วคราวเช่นกัน ขณะที่ชาวบ้านหลายคน เช่น นายดอน เดล โรซาริโอ อายุ 28 ปี ต้องปีนขึ้นไปอยู่บนหลังคาบ้าน รอให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าช่วยเหลือ หลังเกิดน้ำท่วมอย่างรวดเร็วตั้งแต่เมื่อเช้ามืดของวันนี้ โดยนายโรซาริโอ กล่าวว่า เริ่มเกิดน้ำท่วมตั้งแต่เวลา 03.00น.ของวันนี้ กระทั่งเวลา 04.00น.ระดับน้ำเพิ่มสูงอย่างรวดเร็ว ทำให้ตนเองหนีออกจากบ้านไม่ทัน ต้องปีนขึ้นไปอยู่บนหลังคาบ้าน รอเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาช่วยเหลือ



        ทั้งนี้ ฟิลิปปินส์เผชิญกับพายุโซนร้อนและพายุไต้ฝุ่นพัดถล่มเฉลี่ยปีละ 20 ลูก ทำให้ประชาชนหลายล้านคน ซึ่งมีฐานะยากจนอยู่แล้ว ได้รับความเดือดร้อนจากภัยพิบัติจากพายุพัดถล่มอยู่เป็นประจำทุกปี ขณะที่่เจ้าหน้าที่พยากรณ์อากาศฟิลิปปินส์ คาดว่าจะมีพายุอีก 3-5 ลูกพัดถล่มฟิลิปปินส์ภายในสิ้นเดือนธ.ค.นี้ โดยผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ตั้งข้อสังเกตว่า มีแนวโน้มเกิดพายุบ่อยๆและรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศทั่วโลก



#ฟิลิปปินส์



#เฝ้าระวังพายุ



ที่มา: afp

ข่าวทั้งหมด

X