ผลจากการที่สภาคองเกรสสหรัฐฯไม่สามารถอนุมัติร่างงบประมาณปี 2026 เสร็จก่อนเริ่มต้นปีงบประมาณใหม่ในวันที่ 1 ต.ค.68 ทำให้รัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ต้องชัตดาวน์หน่วยงานรัฐบาลกลางเข้าสู่วันที่ 35 ในวันนี้(4 พ.ย.) กระทบโครงการช่วยเหลือทางด้านอาหาร(SNAP)แก่ชาวอเมริกันที่มีรายได้น้อยกว่า 42 ล้านคน
	          ต่อมา มีผู้ยื่นคำร้องต่อศาลในรัฐแมสซาชูเชตส์และรัฐโรดไอส์แลนด์ ขอให้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวประชาชนที่เดือดร้อนจาก ชัตดาวน์ ซึ่งศาลมีคำสั่งเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว(31 ต.ค.)ให้รัฐบาลทรัมป์ใช้วิธีการเบิกงบประมาณจากเงินทุนสำรองฉุกเฉินของรัฐจำนวน 5,250 ล้านดอลลาร์ มาใช้สนับสนุนโครงการช่วยเหลือด้านอาหารแก่ประชาชนไปพลางก่อน ทั้งขอให้รัฐบาลทรัมป์ชี้แจงต่อศาล เมื่อวานนี้(3  พ.ย.)ในเรื่องแนวทางการแก้ไขปัญหานี้ว่า จะดำเนินการอย่างไร
	           ด้านรัฐบาลทรัมป์ โดยกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ(USDA)ระบุในคำแถลงต่อศาลว่า รัฐบาลจะทำตามคำแนะนำของศาลในเรื่องนี้ในช่วงที่ปัญหาการชัตดาวน์ของสหรัฐฯยังไม่มีแนวโน้มว่าจะสิ้นสุดเมื่อใด ขณะเดียวกัน ปริมาณอาหารที่ประชาชนจะได้รับในโครงการนี้ อาจจะลดลงครึ่งหนึ่งจากปริมาณปกติที่ประชาชนได้รับในแต่ละเดือน ด้านนักวิเคราะห์ระบุว่า แม้ว่ารัฐต่างๆของสหรัฐฯจะเป็นผู้ดูแลโครงการสวัสดิการด้านอาหารแก่ประชาชน แต่โครงการนี้ต้องพึ่งพางบประมาณสนับสนุนส่วนใหญ่จากรัฐบาลกลาง
	         สำหรับโครงการ SNAP มุ่งช่วยเหลือชาวอเมริกันที่มีรายได้น้อยให้สามารถซื้ออาหารและสิ่งของจำเป็นต่อชีวิตประจำวันจากร้านค้าในชุมชน โดยมอบบัตรเดบิตแบบเติมเงินให้ประชาชนใช้ซื้ออาหารและสิ่งของต่างๆที่จำเป็น โดยครอบครัวที่มีสมาชิก 4 คนจะได้รับการช่วยเหลือด้านอาหารเฉลี่ยเดือนละ 715 ดอลลาร์ คิดเฉลี่ยไม่ถึง 6 ดอลลาร์ต่อคนต่อวัน
	#รัฐบาลทรัมป์
	#เบิกงบสำรอง
	#ช่วยเหลือด้านอาหาร
	#ชัตดาวน์
	ที่มา: bbc
 ข่าวทั้งหมด