 
                            
            
            
            
            
	          นายวินิจ วิเศษสุวรรณภูมิ ผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.)ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยรายงานภาวะเศรษฐกิจการคลังเดือนกันยายน 2568 ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการส่งออกสินค้าที่ขยายตัวในระดับสูงต่อเนื่อง เป็นเดือนที่ 15 และการท่องเที่ยวภายในประเทศ ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนและจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ส่งสัญญาณชะลอตัว แต่ยังต้องติดตามผลของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน รวมถึงสถานการณ์ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ในหลายภูมิภาค ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย
	          แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 จะขยายตัวได้ถึงร้อยละ 1.8 สูงขึ้นจากคาดการณ์เดิมที่ร้อยละ 1.6 โดยมีตัวแปรสำคัญ คือ การขยายตัวของเศรษฐกิจไทย ในไตรมาส 3/68 ที่ประเมินว่าจะมีทิศทางค่อนข้างดี ซึ่งสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) จะประกาศตัวเลขอย่างเป็นทางการในกลางเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยมาจากการส่งออกในเดือน กันยายน ขยายตัวสูงถึงร้อยละ 19 ดีกว่าคาดการณ์ที่ร้อยละ 10 เป็นปัจจัยสำคัญ
	          อีกทั้งยังมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ ทั้งการเติมเงินผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 22,000 ล้านบาท โครงการคนละครึ่ง พลัส ที่คาดว่าจะช่วยดันเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ 88,000 ล้านบาท และมาตรการกระตุ้นภาคการท่องเที่ยว รวมถึงมาตรการเร่งรัดการเบิกจ่าย (Front Load) ที่จะทำให้เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 4/68 ขยายตัวได้สูงกว่าร้อยละ 0.3
	          ส่วนที่อัตราเงินเฟ้อในปี 68 มีแนวโน้มจะยังติดลบ จากการหารือร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ชี้แจงว่า มีความเป็นไปได้สูงที่อัตราเงินเฟ้อของไทย จะยังไม่เข้าสู่กรอบล่างของเป้าหมายเงินเฟ้อที่ร้อยละ 1 โดยจะยังติดลบไปจนถึงไตรมาส 2/69
	          เศรษฐกิจไทยปี 2568 คาดว่าจะขยายตัวที่ร้อยละ 2.4 ปรับเพิ่มจากประมาณการครั้งก่อน โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในช่วงปลายปีและการส่งออกที่ขยายตัวได้ดีอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ปี 2569 คาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวชะลอลงที่ร้อยละ 2.0 เนื่องจากมีการเร่งส่งออกในปี 2568 อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจไทยยังได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคที่ขยายตัวได้ดี
	
	...
	#เศรษฐกิจไทย
	#สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
 ข่าวทั้งหมด
 ข่าวทั้งหมด