พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา คณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน (ASEAN Observer Team : AOT) ประกอบด้วย Major Jaffny จากประเทศมาเลเซีย และ Master Sergeant Apolonio จากประเทศฟิลิปปินส์ ได้ร่วมสังเกตการณ์และตรวจสอบขั้นตอนการเคลื่อนย้ายรถถัง M60A3 จำนวน 2 คัน กลับสู่ที่ตั้งหน่วย จังหวัดสระบุรี ซึ่งการดำเนินการเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
การเข้าสังเกตการณ์ครั้งนี้ได้รับการอำนวยความสะดวกโดย พันเอก ณัฐพล บุญกระพือ เสนาธิการกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ ณ กองพันทหารม้าที่ 17 กรมทหารม้าที่ 1 รักษาพระองค์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิบัติตามพันธกรณีใน “ข้อตกลงร่วมไทย–กัมพูชา” ที่ได้ลงนามไว้เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2568 ณ ประเทศมาเลเซีย โดยทั้งสองฝ่ายต่างยืนยันเจตนารมณ์ร่วมกันในการปฏิบัติตามข้อตกลงสันติภาพ เพื่อสร้างบรรยากาศแห่งความเชื่อมั่น ลดความตึงเครียด และวางรากฐานแห่งความร่วมมือในระยะยาว
กองทัพไทยขอยืนยันอย่างหนักแน่นว่า การดำเนินการทั้งหมดเป็นไปด้วย ความรอบคอบ และตั้งอยู่บนพื้นฐานในการธำรงไว้ซึ่ง อธิปไตยและความมั่นคงของชาติ รวมทั้งความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา
ส่วนที่บริเวณ จุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำ จังหวัดสุรินทร์ พล.ท.วีระยุทธ รักศิลป์ แม่ทัพภาคที่2 ได้มอบหมายให้เสนาธิการกองทัพภาคที่2 ประชุมหารือ กับ ผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 4 กัมพูชา เพื่อกําหนดแผนการปฏิบัติ ที่เป็นรูปธรรม (ACTION PLAN) ซึ่งการประชุมเริ่มตั้งแต่ เวลา 10.00 น. -12.00 น.
จากนั้นมีการพักประชุม และมาประชุมกันใหม่ในเวลา 13.00 น.- 16.00 น. ก่อนจะพักประชุมอีกครั้ง โดยมีประเด็นสําคัญ เรื่องแผนการถอนอาวุธ แบ่งเป็น3 ระยะ และ 3 ประเภทอาวุธที่เป็นภัยคุกคามต่อประชาชน คือ 1.จรวด (BM-21) 2.ปืนใหญ่ 3.ยานเกราะและรถถัง โดยทั้งสองฝ่ายได้เห็นชอบร่วมกัน ที่จะถอนออกจากพื้นที่ภายใน 3 สัปดาห์ ซึ่งส่งผลกระทบ ที่เป็นภัยคุกคามต่อประชาชน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมยังหารือไม่ถึงการถอนอาวุธในช่วงสัปดาห์ที่ 6 ซึ่งเป็นช่วงสุดท้ายเพราะยังพูดคุยไม่จบ และ การประชุมจะมีขึ้นอีกในเวลา 18.00 น. และใน เวลา 20.00 น.
ข่าวทั้งหมด