สมาชิก UN กว่า 60 ประเทศลงนามอนุสัญญาต่อต้านอาชญากรรมไซเบอร์ แม้กลุ่มสิทธิ-บริษัทเทคฯ ส่งเสียงคัดค้าน

วันนี้, 06:44น.


          เอเอฟพี - ประเทศต่างๆ กว่า 60 ประเทศได้ลงนามในอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านอาชญากรรมไซเบอร์ ในกรุงฮานอยเมื่อวันเสาร์ (25) ที่ผ่านมา แม้จะมีการคัดค้านจากบริษัทเทคโนโลยีและกลุ่มสิทธิมนุษยชนที่เตือนถึงการขยายขอบเขตการสอดแนมของรัฐ กรอบกฎหมายระดับโลกฉบับใหม่นี้มีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศในการต่อสู้กับอาชญากรรมทางดิจิทัล ตั้งแต่สื่อลามกเด็กไปจนถึงการหลอกลวงทางไซเบอร์ข้ามชาติ และการฟอกเงิน



          ประเทศต่างๆ มากกว่า 60 ประเทศ ได้ลงนามในอนุสัญญาดังกล่าวเมื่อวันเสาร์ (25) ที่หมายความว่าอนุสัญญานี้จะมีผลบังคับใช้เมื่อรัฐเหล่านั้นให้สัตยาบัน



อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ กล่าวถึงการลงนามครั้งนี้ว่าเป็นเหตุการณ์สำคัญ แต่ก็เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น  “ทุกวันนี้ การหลอกลวงที่ซับซ้อนได้ทำลายครอบครัว ลักพาตัวผู้อพยพ และสูบเงินหลายพันล้านดอลลาร์ออกจากเศรษฐกิจของเรา เราต้องการการตอบสนองระดับโลกที่เข้มแข็งและเชื่อมโยงกัน” กูเตอร์เรสกล่าวในพิธีที่กรุงฮานอย



            อนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านอาชญากรรมไซเบอร์ถูกเสนอขึ้นครั้งแรกโดยนักการทูตรัสเซียในปี 2560 และได้รับการรับรองโดยฉันทมติเมื่อปีที่แล้วหลังเจรจามาอย่างยาวนาน



          อุตสาหกรรมหลอกลวงออนไลน์ที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีนักต้มตุ๋นหลอกลวงหลายพันคนเกี่ยวข้อง และเหยื่อทั่วโลกถูกหลอกฉ้อโกงเงินไปหลายพันล้านดอลลาร์ต่อปี  แม้แต่ในประเทศที่เป็นประชาธิปไตยที่สุด เราคิดว่าพวกเขายังต้องการการเข้าถึงข้อมูลในระดับที่พวกเขาไม่ได้รับจากกลไกที่มีอยู่”



          ขณะเดียวกัน บริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ก็ได้แสดงความกังวลต่ออนุสัญญาฉบับนี้เช่นกัน คณะผู้แทนจาก Cybersecurity Tech Accord ที่เป็นตัวแทนของบริษัทกว่า 160 แห่งรวมถึงบริษัท Meta Dell และ Infosys ของอินเดีย ไม่ได้เข้าร่วมการประชุมที่กรุงฮานอย ริค แอชตัน-ฮาร์ท หัวหน้าคณะในการเจรจาอนุสัญญาระบุ ในบรรดาการคัดค้านต่างๆ



          บริษัทเหล่านี้เคยเตือนว่าอนุสัญญาอาจทำให้นักวิจัยด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์กลายเป็นอาชญากร และเปิดโอกาสให้รัฐต่างๆ ร่วมมือกันในเกือบทุกการกระทำผิดทางอาญาที่พวกเขาเลือก โดยในระหว่างกระบวนการเจรจา บริษัทเทคโนโลยีเคยระบุว่าการแทรกแซงที่มากเกินไปของทางการอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงอย่างร้ายแรงต่อระบบไอทีขององค์กรที่ประชาชนหลายพันล้านคนพึ่งพาในแต่ละวัน



 

ข่าวทั้งหมด

X