ที่ประชุมรมว.กต.อาเซียน ร่วมติดตามความคืบหน้าสันติภาพเมียนมา และความมั่นคง พร้อมสนับสนุนการค้าเสรี

วันนี้, 20:10น.


          เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2568 นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้เข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ในห้วงของการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 47 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย โดยมีรัฐมนตรีต่างประเทศจากประเทศสมาชิกอาเซียนและติมอร์-เลสเตเข้าร่วม ที่ประชุมติดตามความคืบหน้าประเด็นสําคัญต่าง ๆ และการเสริมสร้างประชาคมอาเซียนภายใต้แนวคิดหลัก “Inclusivity and Sustainability” ของการเป็นประธานอาเซียนของมาเลเซียในปี 2568 และเตรียมการสำหรับการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 47 ในวันรุ่งขึ้น รวมทั้งได้หารือเกี่ยวกับการสมัครเข้าเป็นอัครภาคีสนธิสัญญามิตรภาพและความร่วมมือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Treaty of Amity and Cooperation in Southeast Asia: TAC) ของประเทศต่าง ๆ โดยย้ำหลักการของสนธิสัญญาฯ ที่มุ่งส่งเสริมสันติภาพ ความมั่นคง และความร่วมมือในภูมิภาค การรักษาความเป็นแกนกลางของภูมิภาค รับทราบพัฒนาการล่าสุดเกี่ยวกับความสัมพันธ์อาเซียนกับคู่เจรจา และการรับติมอร์-เลสเตเข้าเป็นสมาชิกอาเซียนอย่างเต็มรูปแบบ



          ที่ประชุมยังได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและหารือเกี่ยวกับความคืบหน้าการดำเนินการตามฉันทมติ 5 ข้อ (Five-Point Consensus) กระบวนการสันติภาพในเมียนมา และการเลือกตั้งในเมียนมาในเดือนธันวาคม 2568 โดยไทยได้ย้ำความสำคัญของการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม เรียกร้องให้มีการหารืออย่างครอบคลุมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเพื่อให้มีการเลือกตั้งที่เสรีและโปร่งใส และทุกภาคส่วนมีส่วนร่วม ที่ประชุมยังได้รับรองเอกสารข้อเสนอแนะเพื่อฟื้นฟูการประชุมอาเซียนว่าด้วยความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคงในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (ASEAN Regional Forum: ARF) เพื่อคงประสิทธิภาพของเวที ARF ในการตอบสนองต่อความท้าทายด้านภูมิภาค



          นอกจากนี้ รัฐมนตรีฯ ในฐานะที่ไทยเป็นผู้เก็บรักษาสนธิสัญญาว่าด้วยเขตปลอดอาวุธนิวเคลียร์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Treaty on the Southeast Asia Nuclear-Weapon-Free Zone: SEANWFZ) ได้รับมอบภาคยานุวัติสารต่อสนธิสัญญาฯ จากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศติมอร์-เลสเต ซึ่งส่งผลให้ติมอร์-เลสเตเข้าเป็นภาคีของสนธิสัญญาฯ อย่างสมบูรณ์ อันเป็นการตอกย้ำถึงเจตนารมณ์อาเซียนที่จะพิทักษ์ภูมิภาคให้ปราศจากอาวุธนิวเคลียร์



          จากนั้นในการประชุมคณะมนตรีประชาคมการเมืองและความมั่นคงอาเซียน (ASEAN Political-Security Community Council: APSC Council) ครั้งที่ 30 ที่ประชุมได้หารือติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานขององค์กรอาเซียนเฉพาะสาขา (ASEAN Sectoral Bodies) และการดำเนินการตามแผนงานประชาคมการเมืองและความมั่นคงอาเซียน (APSC Blueprint 2025) รวมทั้งรับทราบรายงานทบทวนผลการดำเนินงาน (End Term Review) เพื่อประเมินความก้าวหน้าและแนวทางขับเคลื่อนประชาคมการเมืองและความมั่นคงให้เข้มแข็งยิ่งขึ้นภายใต้วิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียน ค.ศ. 2045



          รัฐมนตรีฯ ได้ย้ำความพร้อมในการมีส่วนร่วมอย่างสร้างสรรค์ต่อการดำเนินการตามแผนยุทธศาสตร์ฉบับใหม่ของ APSC (APSC Strategic Plan) เพื่อสอดรับกับวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียนฯ และพร้อมแสดงบทบาทเชิงรุกในการส่งเสริมความร่วมมือด้านการบริหารจัดการชายแดนอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อเสริมสร้างสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาค 



          และการประชุมคณะมนตรีประสานงานอาเซียน (ASEAN Coordinating Council) ครั้งที่ 37 ที่ประชุมรับฟังความคืบหน้าในการเตรียมการรับติมอร์-เลสเตเป็นสมาชิกอาเซียน รับทราบรายงานจากกลไกอาเซียนที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งนี้ รวมถึงหารือและติดตามความคืบหน้าในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการสร้างประชาคมอาเซียนและการดำเนินการตามประเด็นสำคัญและผลลัพธ์ (deliverables) ภายใต้การเป็นประธานอาเซียนของมาเลเซีย



          รัฐมนตรีฯ ย้ำความสำคัญในการสร้างความตระหนักรู้ต่อวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียน ค.ศ. 2045 ในวงกว้างและยืนยันความพร้อมของไทยในการขับเคลื่อนการนำวิสัยทัศน์ฯ ไปสู่การปฏิบัติอย่างบูรณาการ ทั้งยังแจ้งที่ประชุมเกี่ยวกับการจัดทำข้อริเริ่มความเกื้อกูลระหว่างวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียน ค.ศ. 2045 กับวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ. 2030 (Complementarities Initiative 2.0) ฉบับใหม่ ซึ่งไทยจะเสนอให้ที่ประชุม ASEAN - UN Summit ครั้งที่ 15 เห็นชอบต่อไป



          และการประชุมร่วมรัฐมนตรีต่างประเทศและรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน ที่ประชุมได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงทางภูมิรัฐศาสตร์และภูมิเศรษฐศาสตร์ในปัจจุบัน รวมถึงพิจารณารายงานด้านภูมิเศรษฐศาสตร์อาเซียน ค.ศ. 2025 (ASEAN Geoeconomics Report: AGR 2025) ซึ่งจัดทำโดยคณะทำงานด้านภูมิเศรษฐศาสตร์อาเซียน เพื่อประเมินผลกระทบเชิงภูมิเศรษฐศาสตร์และเสนอ “ยุทธศาสตร์ภูมิเศรษฐศาสตร์อาเซียน” (ASEAN Geoeconomics Strategy)



          รัฐมนตรีฯ ชื่นชมรายงานด้านภูมิเศรษฐศาสตร์อาเซียน ค.ศ. 2025 และเห็นพ้องกับข้อเสนอแนะที่อาเซียนควรมุ่งเน้นระบบพหุภาคีนิยมและการบูรณาการทางเศรษฐกิจในภูมิภาค โดยเฉพาะการปรับปรุงความตกลงการค้าสินค้าของอาเซียน (ASEAN Trade in Goods Agreement: ATIGA) ความตกลงการค้าเสรีกับประเทศคู่เจรจา และผลสรุปของข้อตกลงเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy Framework Agreement: DEFA) ทั้งยังเน้นถึงความสำคัญในการผลักดันให้อาเซียนพิจารณาเศรษฐกิจใหม่ ๆ เช่น เศรษฐกิจสร้างสรรค์ เศรษฐกิจสีเขียว รวมทั้งการมีส่วนร่วมของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (MSMEs) ในเศรษฐกิจภูมิภาคและเศรษฐกิจโลก รัฐมนตรีฯ ยังเห็นว่า ควรให้มีการติดตามการพิจารณาข้อเสนอแนะและรับฟังความเห็นจากภาคธุรกิจ เนื่องจากเป็นผู้ขับเคลื่อนหลักของการเติบโตทางเศรษฐกิจ



...



#ประชุมอาเซียน

ข่าวทั้งหมด

X