กรมพัฒน์ลงพื้นที่เกาะพะงัน พบสนง.บัญชีและธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เข้าข่ายนอมินี

วันนี้, 08:30น.


          นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากการที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ร่วมกับคณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดของคนต่างด้าวในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ปฏิบัติการตรวจค้นเป้าหมาย 4 จุด ในเกาะพะงัน และดำเนินการกับธุรกิจที่มีพฤติการณ์ฝ่าฝืนกฎหมายตามพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 รวมถึงให้คำแนะนำแก่ผู้ประกอบการไทยในการดำเนินธุรกิจให้ถูกต้องตามกฎหมาย



          พบธุรกิจที่มีลักษณะต้องสงสัยเกี่ยวกับการใช้คนไทยถือหุ้นแทนชาวต่างชาติ (นอมินี) ใน 2 กลุ่มธุรกิจ คือ



1. สำนักงานบัญชีแห่งหนึ่งซึ่งเจ้าของสำนักงานแห่งนี้มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นอยู่ใน 66 บริษัท โดยเป้าหมายทั้ง 3 จุด ที่ลงพื้นที่มีความเชื่อมโยงกับเจ้าของสำนักงานบัญชีแห่งนี้ และอาคารพาณิชย์ที่ลงตรวจก็ยังเป็นที่ตั้งของนิติบุคคลรวมกันถึง 89 แห่ง โดยไม่ปรากฏการประกอบธุรกิจจริงในบางห้อง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตรวจยึดเอกสารและคอมพิวเตอร์เพื่อนำไปตรวจสอบว่ามีการใช้คนไทยเป็นนอมินีในการประกอบธุรกิจแทนชาวต่างชาติหรือไม่และใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินทางคดี



          กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้เรียกเอกสารเพิ่มเติมให้เจ้าของสำนักงานบัญชีและนิติบุคคลที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจงต่อกรมฯ ให้ครบถ้วนเพื่อตรวจสอบในเชิงลึกต่อไป



2. ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นวิลล่าหรู 8 หลัง เปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเช่าพักโดยไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการโรงแรม เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง จึงได้เชิญผู้ดูแลโครงการและนักท่องเที่ยวต่างชาติ 6 ราย ไปสอบสวนเพิ่มเติม เบื้องต้นพบข้อมูลที่น่าสงสัยเกี่ยวกับการถือครองที่ดินของโครงการวิลล่ามูลค่ากว่า 152 ล้านบาท โดยมีบริษัทนิติบุคคลสัญชาติไทย 2 แห่งถือครอง แต่มีผู้ถือหุ้นชาวอิสราเอล ในสัดส่วนร้อยละ 49 และต่อมามีการเพิ่มบริษัทที่เป็นชาวอิสราเอลเข้ามาซื้อหุ้นเพิ่มอีก 1 บริษัท อาจเข้าข่ายเป็นการซื้อขายเพื่อหลบเลี่ยงการเสียภาษี และการถือหุ้นอำพรางเข้าข่ายเป็นนอมินี



          กรมฯ จะดำเนินการตรวจสอบในเชิงลึก และรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดส่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหมาย และขยายผลไปยังนิติบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เพื่อไม่ให้มีการใช้ช่องว่างทางกฎหมายครอบครองธุรกิจของชาติอย่างไม่ถูกต้อง



ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นการซื้อขายที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์ เป็นธุรกิจที่ห้ามคนต่างด้าวประกอบธุรกิจโดยเด็ดขาด และกรณีธุรกิจให้เช่าหรือนายหน้าหรือตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ คนต่างด้าวจะประกอบธุรกิจต้องได้รับอนุญาตจากอธิบดีโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวก่อน เพื่อคุ้มครองประโยชน์ทางเศรษฐกิจของประเทศ และสร้างการแข่งขันทางธุรกิจที่เป็นธรรมต่อผู้ประกอบการไทย



          นายพูนพงษ์ กล่าวว่า กรมฯ ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการปราบปรามการใช้คนไทยถือหุ้นแทนชาวต่างชาติ เพราะเป็นการบิดเบือนโครงสร้างทางเศรษฐกิจและทำให้ผู้ประกอบการไทยเสียเปรียบในการแข่งขัน พร้อมร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ตำรวจท่องเที่ยว สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กรมสรรพากร สำนักงานที่ดิน และหน่วยงานในพื้นที่



โดยช่วงเดือนกรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา กรมฯ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบกลุ่มเป้าหมายในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีธุรกิจกลุ่มเสี่ยงสูงเป็นอันดับ 2 ของประเทศ



          จากข้อมูลนิติบุคคลเป้าหมายทั่วประเทศจำนวน 7,096 ราย ผลการตรวจสอบครั้งนั้นพบว่า มีนิติบุคคลที่จัดเป็นกลุ่มเสี่ยงสูงที่ควรพิจารณาดำเนินการตรวจสอบในลำดับแรกคือ ผู้ถือหุ้นคนไทยจำนวน 5 ราย (นิติบุคคล 1 ราย บุคคลธรรมดา 4 ราย) ที่มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นในหลายบริษัทรวม 256 บริษัท ตั้งอยู่ในพื้นที่อำเภอเกาะพะงัน รวมทั้งกรณีมีที่ตั้งสำนักงานซ้ำกันกว่า 100 บริษัท



....



#นอมินีบนเกาะพะงัน



#กรมพัฒนาธุรกิจการค้า



#กระทรวงพาณิชย์

ข่าวทั้งหมด

X