ประชุม รมว.คลังเอเปค ครั้งที่ 32 ไทยย้ำความสำคัญของนวัตกรรมต่อการพัฒนาและปฏิรูปโครงสร้าง

วันนี้, 06:30น.


            นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเอเปค (APEC Finance Ministers’ Meeting: APEC FMM) ครั้งที่ 32 การประชุมรัฐมนตรีด้านการปฏิรูปโครงสร้างเอเปค (APEC Structural Reform Ministerial Meeting: APEC SRMM) ครั้งที่ 4 และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่ 21 – 23 ตุลาคม 2568 ณ เมืองอินชอน สาธารณรัฐเกาหลี



          การประชุมครั้งนี้ เป็นการประชุมร่วมครั้งแรกระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเอเปคและรัฐมนตรีด้านการปฏิรูปโครงสร้างเอเปค ภายใต้หัวข้อ “นวัตกรรมและการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล (Innovation and Digitalization)” เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์และนโยบายด้านนวัตกรรม การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล รวมถึงการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งมีบทบาทต่อการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ สังคม และอุตสาหกรรมในภูมิภาคเอเปค โดยรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังทำหน้าที่เป็นรัฐมนตรีด้านการปฏิรูปโครงสร้างเอเปคอีกบทบาทหนึ่งด้วย ที่ประชุมได้ตระหนักถึงพัฒนาการด้านเทคโนโลยีดิจิทัลและ AI ที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว และทราบถึงโอกาสในการเพิ่มผลิตภาพ สร้างธุรกิจนวัตกรรม และส่งเสริมการเติบโตแบบทั่วถึง อย่างไรก็ดี มีข้อกังวลด้านความเสี่ยงของการเกิดความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัล ที่ประชุมสนับสนุนให้สมาชิกเอเปคร่วมกันปฏิรูปโครงสร้างเพื่อเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัล เร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล ประสานงานด้านกฎระเบียบ และดำเนินการใช้ AI อย่างมีความรับผิดชอบ



          ในโอกาสนี้ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้กล่าวถึงความสำคัญของนวัตกรรมในฐานะเสาหลักของการพัฒนาและการปฏิรูปโครงสร้างของไทย เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืนเปิดกว้าง และครอบคลุม โดยไทยได้ส่งเสริมการสร้างระบบนิเวศนวัตกรรมผ่านกองทุนนวัตกรรมแห่งชาติ มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการวิจัยและพัฒนา และนโยบายสนับสนุนอื่น ๆ เพื่อให้ประชาชนและภาคเอกชนสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีได้อย่างทั่วถึง และสนับสนุนการลงทุนในภาคดิจิทัล ซึ่งคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (Board of Investment of Thailand: BOI) ได้อนุมัติการลงทุนในภาคดิจิทัลมากกว่า 300,000 ล้านบาท



          ในส่วนของการเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัล ไทยได้ดำเนินการเพื่อยกระดับการให้บริการภาครัฐให้มีประสิทธิภาพ โปร่งใส และยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง พร้อมทั้งผลักดันการประยุกต์ใช้ AI ตามแผนแม่บท AI แห่งชาติ (ปี 2565–2570) เพื่อส่งเสริมการใช้ AI ในภาครัฐและภาคเอกชน และมุ่งพัฒนาระบบการเงินดิจิทัลและธุรกิจ FinTech และการจัดตั้ง Virtual Banks เพื่อยกระดับโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินและเพิ่มการเข้าถึงบริการทางการเงินอย่างทั่วถึง ควบคู่กับการส่งเสริมนวัตกรรมอย่างมีความรับผิดชอบ (Responsible Innovation) เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนและปลอดภัย



          รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้เน้นย้ำว่า นวัตกรรมและดิจิทัลไม่เพียงเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ แต่ยังเป็นรากฐานสำคัญของการปฏิรูปโครงสร้างที่ยั่งยืน ซึ่งประเทศไทยพร้อมร่วมมือกับสมาชิกเอเปคเพื่อบรรลุเป้าหมายร่วมของการเติบโตที่เปิดกว้าง ยั่งยืน และครอบคลุม



...



#คลังเอเปค



#เศรษฐกิจ

ข่าวทั้งหมด

X