หนี้สหรัฐฯ แตะ 38 ล้านล้านดอลลาร์ สะสมหนี้เพิ่ม 1 ล้านล้านดอลลาร์ในเวลาเพียง 2 เดือน

          กระทรวงการคลังสหรัฐฯ รายงานว่า หนี้สาธารณะของรัฐบาลสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นสูงเกิน 38 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในวันพุธ (22 ต.ค.68) สะท้อนถึงการสะสมหนี้ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในงบดุลของสหรัฐฯ ทั้งยังเป็นการสะสมหนี้นอกช่วงการระบาดของโควิด-19 มูลค่ากว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ที่เร็วที่สุดอีกด้วย โดยใช้เวลาเพียง 2 เดือน จากที่เมื่อเดือนสิงหาคมปีนี้สหรัฐฯ มีหนี้สาธารณะอยู่ที่ 37 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ

          นักวิเคราะห์กังวลว่า ภาระหนี้ที่เพิ่มขึ้นจะนำไปสู่ภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ส่งผลให้กำลังซื้อของชาวอเมริกันลดลง

          ทั้งนี้ รัฐบาลทรัมป์ ยืนยันว่านโยบายชะลอการใช้จ่ายของรัฐบาลช่วยลดการขาดดุลงบประมาณมหาศาลของประเทศได้ โดยในรายงานของกระทรวงการคลัง ระบุว่าตั้งแต่เดือนเมษายนถึงกันยายน การขาดดุลงบประมาณสะสมรวมอยู่ที่ 468,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งนาย สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง ชี้ว่าเป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2562

          ทำเนียบขาว ระบุในแถลงการณ์ว่า ในช่วงแปดเดือนแรกของการดำรงตำแหน่ง ประธานาธิบดีทรัมป์ลดการขาดดุลงบประมาณลง 350,000 ล้านดอลลาร์เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2567 ยืนยันว่า รัฐบาลจะมุ่งเน้นการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง อัตราเงินเฟ้อที่ต่ำลง รายได้จากภาษีศุลกากร ลดต้นทุนการกู้ยืม และลดการใช้จ่ายฟุ่มเฟือย การฉ้อโกง และการทุจริต

          คณะกรรมาธิการร่วมด้านเศรษฐกิจ ประมาณการว่าหนี้สาธารณะของสหรัฐฯเพิ่มขึ้น 69,713.82 ดอลลาร์ต่อวินาทีในช่วงปีที่ผ่านมา

โดยสหรัฐฯ มีหนี้ 34 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนมกราคม 2567

35 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนกรกฎาคม 2567

และ 36 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนพฤศจิกายน 2567

...

#หนี้สาธารณะสหรัฐฯ

#เศรษฐกิจ