ชาวบ้านในแคว้นเบลโกรอด ทางภาคตะวันตกของรัสเซีย ซึ่งอยู่ติดกับพรมแดนรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งไม่เปิดเผยชื่อ-สกุล ระบุว่า เหตุไฟฟ้าดับ,เสียงสัญญาณเตือนชาวบ้านให้เข้าไปยังหลุมหลบภัย และเสียงระเบิดจากการยิงสกัดโดรนจากยูเครน เริ่มกลายเป็นเหตุการณ์ประจำ วันที่ชาวบ้าน รู้สึกคุ้นชินมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากยูเครนส่งโดรนบินรุกล้ำน่านฟ้าของรัสเซียเข้ามาโจมตีเมืองชายแดนของรัสเซียอยู่เป็นประจำ เพื่อตอบโต้การที่รัสเซียส่งโดรนและยิงขีปนาวุธโจมตีโรงไฟฟ้าในหลายเมืองทั่วยูเครน
ชาวบ้านคนหนึ่ง กล่าวว่า มีเสียงระเบิดดังสนั่นและน่ากลัวมาก เธอต้องรีบกลับมาจากคลินิก หลังมีสัญญาเตือนภัยแจ้งให้ประชาชนเข้าไปยังหลุมหลบภัย หรืออาคารที่ปลอดภัย ซึ่งตามปกติ เธอจะได้รับแจ้งเตือนภัยทางแอปพลิเคชั่นส่งข้อความเทเลแกรม ในกรณีมีเหตุโจมตีด้วยโดรน หรือขีปนาวุธจากรัสเซีย ซึ่งไม่นานหลังจากนั้น ระบบป้องกันภัยทางอากาศของยูเครนจะยิงสกัดโดรน หรือขีปนาวุธจากรัสเซีย มีเสียงระเบิดดั่งสนั่นขณะที่เธอวิ่งไปเข้าไปยังหลบอยู่ใต้อาคาร หรือหลุมหลบภัย ซึ่งในวันรุ่งขึ้นก็จะมีเหตุการณ์เดิมวนเวียนเช่นนี้มาสักระยะหนึ่งแล้ว
จากการวิเคราะห์ของทีมข่าว BBC New ภาษารัสเซีย ใช้ข้อมูลที่รวบรวมจากหน่วยงานท้องถิ่น พบว่า จำนวนโดรนที่ยูเครนส่งเข้ามาโจมตีแคว้นเบลโกรอด เพิ่มขึ้นเกือบ 4 เท่า นับตั้งแต่ต้นปีนี้(2568) โดยเฉพาะเดือนก.ย.2568 ทีมข่าว BBC พบว่า ยูเครนส่งโดรนเข้ามาโจมตีแคว้นเบลโกรอดกว่า 4,000 ลำ เทียบกับ 1,100 ลำในเดือนม.ค.2568 โดยเฉพาะเดือนที่แล้ว(ก.ย.) ยูเครนส่งโดรนกว่า 260 ลำ เข้ามาโจมตีแคว้นเบลโกรอด หนึ่งในการโจมตีครั้งใหญ่ที่สุดจากยูเครน และพบการปล่อยขีปนาวุธเข้ามาโจมตีแคว้นนี้ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ช่วงฤดูร้อน
#สงครามยูเครน
ที่มา: bbc