เร่งรัฐตรวจสอบ ชาวยิวยึดพื้นที่เกาะพะงัน กระทบการท่องเที่ยว-ก่อสร้างวิลลาไม่ได้รับอนุญาต

วันนี้, 11:09น.


                  ปัญหาชาวอิสราเอลครอบครองพื้นที่ เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ไม่ต่างกับการเข้าพื้นที่ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน  พ.ต.อ.ศิริชัย สุขสาตต์ รอง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ในฐานะหัวหน้าชุดปฏิบัติการ คณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อป้องกันปราบปรามการกระทำผิดของคนต่างด้าว จ. สุราษฎร์ธานี มล.ภู่ทอง ทองใหญ่ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พล.ต.ต.ชูธเรศ ยิ่งยงดำรงสกุล รอง ผบก.ตม.6 เจ้าหน้าที่สรรพากร และเจ้าพนักงานที่ดิน และเจ้าหน้าที่ส่วนที่เกี่ยวข้อง หลังจากประชุมเสร็จได้กระจายกำลังปฏิบัติการตรวจค้นเป้าหมาย 4 จุด เพื่อตรวจสอบการกระทำผิด และผู้สนับสนุนให้มีการประกอบธุรกิจของชาวต่างด้าวอย่างผิดกฎหมายในพื้นที่เกาะพะงัน 



          จากการสอบถามชาวบ้านประชาชนในพื้นที่ ชาวบ้านต่างบอกว่า ขอให้หน่วยงานรัฐทำกันจริงๆจัง อย่าทำแบบตอนที่กำลังเป็นกระแสข่าว ต้องทำกันอย่าต่อเนื่อง และในยิ่งตอนนี้ เกาะพะงันชื่อเสียงเสียหายหมดแล้ว กว่าฟื้นฟูชื่อเสียงก็ต้องใช้เวลา เกาะพะงันยึดเศรษฐกิจท่องเที่ยวเป็นหลัก มีรายได้จากการท่องเที่ยว



          การตรวจค้น เป้าหมายที่ 1 อาคารพาณิชย์  ริมถนนตลาดใหม่ ม.1 ต.เกาะพะงัน เป็นที่ตั้งของสำนักงาน เฟิร์สคอนซันแทนส์ ยูนิเวิร์ลซัล เซอร์วิส (บริษัท เฟิร์ส คอนซัลแทนส์ 47 จำกัด) และเป้าหมายที่ 2 อาคารพาณิชย์ใกล้เคียง มีผู้ครอบครองเป็นรายเดียวกัน ซึ่งเป็นสำนักงานที่ปรึกษาทางกฎหมาย การบัญชี และรับจัดตั้งบริษัทนิติบุคคล



           จากการสืบสวนพบว่า สถานที่ดังกล่าว เป็นที่ตั้งของบริษัทนิติบุคคลรวมกันถึง 89 แห่ง พ.ต.อ.ศิริชัย สุขสาตต์ รอง ผบก.ภ.จว. สุราษฎร์ธานี ได้แสดงหมายค้นต่อผู้ดูแลสำนักงาน เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึดเอกสารและคอมพิวเตอร์ เพื่อนำไปตรวจสอบว่ามีการใช้คนไทยเป็นนอมินีในการประกอบธุรกิจแทนชาวต่างชาติหรือไม่





           ส่วนเป้าหมายที่ 2 เป็นเพียงห้องว่าง ไม่มีอุปกรณ์สำนักงาน หรือการประกอบกิจการ



           เป้าหมายที่ 3 เป็นบ้านพักของ นางเข็มทอง อายุ 49 ปี เจ้าของบริษัท เฟิร์ส คอนซัลแทนส์ 47 จำกัด แต่ไม่พบตัวนางเข็มทอง รับแจ้งจากผู้ดูแลบ้านว่า นางเข็มทอง พาสามีชาวต่างชาติ ไปพบแพทย์ที่กรุงเทพฯ และไม่สามารถติดต่อได้ เจ้าหน้าที่จึงเข้าทำการตรวจยึดเอกสารที่เกี่ยวข้องไว้ตรวจสอบ





           เป้าหมายที่ 4 คือ โครงการก่อสร้างอาคารวิลล่าโครงการศิธายา บีช ฟร้อนท์ วิลล่า ตั้งอยู่ริมหาดเขาหินนก ม.4 ต.เกาะพะงัน ซึ่งเป็น โครงการวิลล่ารวม 8 หลัง ในระหว่างการตรวจสอบพบว่าวิลล่าจำนวน 7 หลัง มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าพักอาศัย โดยมีการจ่ายค่าที่พักในอัตราสูงถึง คืนละ 13,000 บาท จากการตรวจสอบเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองยืนยันว่า วิลล่าดังกล่าวไม่ได้รับอนุญาตให้เปิดกิจการโรงแรมที่พัก จึงได้เชิญตัวผู้ดูแลวิลล่า และนักท่องเที่ยวต่างชาติ 6 ราย ไปสอบสวนปากคำเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย



          รายงานระบุว่าโครงการวิลล่าหรูแห่งนี้เคยถูกนำเสนอข่าวว่าเป็น โครงการของชาวอิสราเอล โดยพบว่าที่ดินแปลงดังกล่าวเนื้อที่รวม 2.5 ไร่ มีมูลค่าสูงถึง 152 ล้านบาท ถือครองโดยบริษัทนิติบุคคลสัญชาติไทย 2 บริษัท ที่มีหุ้นส่วนเป็นชาวอิสราเอลในอัตราร้อยละ 49 และต่อมามีการแบ่งแยกที่ดินออกเป็น 14 แปลง อีกทั้งยังมีการเพิ่มบริษัทนิติบุคคลที่มีชาวอิสราเอลเข้ามาซื้อหุ้นเพิ่มอีก 1 บริษัท  เจ้าหน้าที่ตั้งข้อสังเกตว่า การเพิ่มหุ้นส่วนในนามนิติบุคคลนี้ อาจเป็นการอำพรางการซื้อขายวิลล่าเพื่อหลบเลี่ยงการเสียภาษี ซึ่งการดำเนินการทั้งหมดนี้เป็นการเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของจังหวัดสุราษฎร์ธานีในการปราบปรามธุรกิจผิดกฎหมายที่กระทบต่อเศรษฐกิจและความมั่นคงของชาติ



           ข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์ มีชาวต่างชาติมาจดทะเบียนบริษัทในอำเภอเกาะพะงันประมาณ 2,500 ราย จากการตรวจสอบในเบื้องต้นมีอยู่ 5 บริษัทใหญ่ๆ ซึ่งเป็นบริษัทรับจดทะเบียน ในแต่ละบริษัทจะมีลูกค้าอยู่ในมือ ประมาณ 100 บริษัท  ซึ่งจะมีการตรวจสอบทั้งหมด ว่าการจดทะเบียนถูกต้องหรือไม่ ผู้ถือหุ้นถูกต้องหรือไม่ ซึ่งในกระบวนการนี้ การสอบสวนเพื่อแสวงหาพยานหลักฐานหากพบว่ามีความผิด หรือว่าประกอบธุรกิจจดทะเบียนแล้ว ไม่ถูกกฎหมาย หรือบางรายยังไม่ได้ขออนุญาต ก็ต้องมีความผิดถูกดำเนินคดีเช่นกัน



 



#ยิวยึดพะงัน



 



 



 



 

ข่าวทั้งหมด

X