*รองผบ.ตร.กำชับทุกฝ่ายทำงานคุมเข้มป้องกัน–ปราบปรามแก้ประมงผิดกฎหมาย*

แนวทางการสนับสนุนการดำเนินงานของศูนย์ควบคุมการแจ้งเข้า-ออกเรือประมง หรือ พีไอพีโอ เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และขาดการควบคุม หรือ ไอยูยู พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวระหว่างการเดินทางลงพื้นที่ดูการแก้ไขการทำประมง ที่ท่าเทียบเรือองค์การสะพานปลา ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร ว่า  หลังจากที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งร่วมมือกันแก้ปัญหาการประมงของไทย ก่อนที่สหภาพยุโรป (อียู) จะมาประเมินเพื่อปลดล็อคใบเหลืองของไทย  หน่วยงานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ( สตช.)  จะให้หน่วยงานภายใต้สังกัด เช่น ตำรวจน้ำ ,ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ,และตำรวจในแต่ละพื้นที่ สนับสนุนการปฎิบัติงานของศูนย์ควบคุมการแจ้งเข้า-ออกเรือประมงในทุกจังหวัด  ขณะนี้ ได้สั่งการให้ผู้บังคับการตำรวจภูธรในแต่ละจังหวัด ที่ติดชายทะเล จำนวน 28จังหวัด สนับสนุนงานด้านการการป้องกัน ปราบปรามแรงงานที่ผิดกฎหมายของทางศูนย์ฯ ตลอด 24 ชั่วโมง

ทั้งนี้จากการลงพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร วันนี้  ไม่พบเรือที่ทำผิดกฎหมาย ส่วนเรือที่จอดอยู่บริเวณท่าเรือองค์การสะพานปลา ประมาณ 4-5 ลำ ที่จอดรอถ่ายปลาขึ้นฝั่ง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  ได้พูดคุยกับคนที่ดูแลเรือ และขอตรวจเอกสารที่เกี่ยวกับการทำประมงของเรือแต่ละลำ ทุกลำมีเอกสารครบถ้วน รวมถึงรวมเรือก็มีบัตรปะจะตัวแรงงานต่างด้าวที่ถูกต้อง  ประกอบกับช่วงนี้ เป็นช่วงที่ปิดอ่าวซึ่งมีเรือเข้า-ออก 27 ลำต่อวัน ซึ่งตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม เป็นต้นไปอ่าวก็จะเปิด และจะมีเรือเข้า ออกมากกว่า 10 เท่า จึงกำชับให้ตำรวจในพื้นที่คอยออกตรวจร่วมกับเจ้าหน้าที่ของทางศูนย์ฯอย่างต่อเนื่องเพื่อให้การปฎิบัติงานมีประสิทธิภาพมากที่สุด

ผู้สื่อข่าว:วิรวินท์ ศรีโหมด