ส.อ.ท. จับมือ ธปท. ผนึกกำลังเสริมเสถียรภาพเศรษฐกิจไทย รับมือบาทแข็ง–ภาษีสหรัฐฯ–ปัญหาสภาพคล่องธุรกิจ

วันนี้, 17:46น.


          นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธาน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ส.อ.ท.ได้หารือความร่วมมือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หลังจากประเมินแล้วพบว่า ประเทศไทยยังต้องเผชิญความท้าทายรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นการรับมือผลกระทบจากภาษีนำเข้าของสหรัฐ การส่งเสริมการเปิดตลาดใหม่ การกระตุ้นและพลิกฟื้นเศรษฐกิจ การแก้ไขปัญหาหนี้และสภาพคล่องของภาคธุรกิจ การลดต้นทุนพลังงาน มาตรการเยียวยาผลกระทบจากการปิดด่านชายแดน รวมทั้งความกังวลต่อการแข็งค่าของเงินบาท ซึ่งเงินบาทที่แข็งค่าเกินไป ทำให้รายได้ประเทศลดลง การแข่งขันในตลาดโลกเสียเปรียบ และยังส่งผลต่อการจ้างงานและเศรษฐกิจในวงกว้าง โดยเฉพาะหากเทียบกับภูมิภาคเดียวกัน ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นกว่า 7% ขณะที่เงินเวียดนามอ่อนค่าลง 3% ทำให้ช่องว่างการแข่งขันห่างกันเกือบ 10% สินค้าส่งออกไทยที่มีกำไรไม่มากอยู่แล้ว จึงเสียเปรียบประเทศคู่แข่งอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ต้องหารือร่วมกัน เพื่อหาแนวทางการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้แก่ผู้ประกอบการมากขึ้น





          'รายได้จากการส่งออกคิดเป็น 60% ของจีดีพีรวม ซึ่งกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ประเมินว่าจีดีพีไทย ปี 2569 จะโตเพียง 1.6% จากผลกระทบด้านการส่งออกและการท่องเที่ยว ที่เริ่มชะลอตัวจากภาวะค่าครองชีพสูง นักท่องเที่ยวระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น ในขณะที่เพื่อนบ้านอย่างเวียดนามกลับเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวได้อีก 2-3 ล้านคน'



          นายเกรียงไกร กล่าวว่า ข้อเสนอของภาคเอกชนในการแก้ไขปัญหาหลักๆ เป็นการยกระดับขีดความสามารถการแข่งขันในอุตสาหกรรมดั้งเดิม (First Industries) ไปสู่การสร้างเครื่องยนต์ใหม่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจในอุตสาหกรรมใหม่หรืออุตสาหกรรมแห่งอนาคต (Next-Gen Industries) รวมถึงแก้ปัญหาค่าเงินบาทแข็ง โดยได้เสนอให้หน่วยงานรัฐเข้มงวดการตรวจสอบการส่งออกทองคำ ซึ่งเคยเสนอไปแล้ว หลังพบว่าปี 2566 มีการส่งออกไปกัมพูชากว่า 12,000 ล้านบาท และปี 2567 พุ่งหลักแสนล้านบาท ภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงต้องเร่งจัดระเบียบเพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนต่างชาติ โดยช่วงเดือนก่อนที่เอกชนพบความผิดปกติของการส่งออกทองคำไปจำนวนมาก และเมื่อชี้จุดทำให้มีการเข้ามาตรวจสอบอย่างเข้มงวด ส่งผลให้ค่าเงินบาทลดลงมาได้บ้าง สะท้อนถึงหากมีการควบคุมและกำกับดูแลอย่างเข้มงวดก็จะช่วยในเรื่องนี้ได้ ซึ่งขณะนี้มีการดำเนินการซื้อขายทองคำเป็นสกุลเงินดอลลาร์แล้ว ซึ่งตรงนี้จะช่วยลดการแข็งค่าของเงินบาทได้



          ส.อ.ท.ได้เสนอให้ภาครัฐเพิ่มสัดส่วนการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐที่เป็นสินค้าเมดอินไทยแลนด์จาก 30% เป็น 50% เพื่อกระตุ้นอุตสาหกรรมในประเทศ และสร้างรายได้ให้เอสเอ็มอีโดยไม่ต้องพึ่งพางบประมาณเพิ่มเติม พร้อมสนับสนุนโครงการคนละครึ่งพลัสที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจระดับรากหญ้า มีร้านค้าร่วมโครงการกว่า 300,000 ร้านทั่วประเทศ



          ขณะเดียวกัย อยากให้ ธปท.และสถาบันการเงินพิจารณาซอฟต์โลนดอกเบี้ยต่ำ เพื่อช่วยเหลือSMES โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่มีวินัยทางการเงินดี อาทิ ไม่เคยค้างชำระค่าน้ำค่าไฟ หรือมีเครดิตชุมชนที่ดี ควรได้รับแต้มต่อในการกู้ยืม รวมถึงเสนอให้จัดตั้งกองทุนเอสเอ็มอีนวัตกรรมการเงินโดยเปิดโอกาสให้เอกชนร่วมลงทุน เพื่อให้ผู้ประกอบการที่ไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อปกติสามารถเข้ามาขอทุนสนับสนุนได้





          ด้านนายวิทัย รัตนากร ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ภารกิจหลักของ ธปท. คือ การรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงินในระยะยาว ประกอบด้วย 3 ส่วนด้วยกัน คือ



         1.สร้างเสถียรภาพทางการเงิน โดยเฉพาะดูแลให้เงินเฟ้อในระยะปานกลางอยู่ในระดับต่ำและไม่ผันผวน รวมถึงไม่ให้เกิดภาวะเงินฝืดและให้เงินเฟ้อกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายในระยะปานกลาง



          2.สร้างเสถียรภาพทางระบบสถาบันทางการเงิน โดยสถาบันการเงินเข้มแข็ง มีความมั่นคง สามารถให้บริการลูกหนี้ ประชาชนและธุรกิจได้ต่อเนื่อง และดูแลไม่ให้เกิดจุดเปราะบางในระบบการเงิน



          3.สร้างเสถียรภาพทางระบบการชำระเงิน ดูแลให้มีระบบมีประสิทธิภาพ ตอบสนองความต้องการของประชาชน ธุรกิจ และภาครัฐ ทั้งด้านความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย และด้วยราคาที่สมเหตุผล โดยการหารือระหว่างภาคเอกชน ธปท.มาพร้อมทีมเจ้าหน้าที่ระดับสูงเพื่อรับฟังปัญหา และความคิดเห็นในการทำงานร่วมกันอย่างจริงจัง ซึ่งหากสามารถดำเนินการเรื่องใดได้ทันทีก็จะเร่งดำเนินการก่อน



          การหารือกันนี้ ถือว่าเราอยู่ในจุดที่เห็นปัญหาเชิงโครงสร้างเศรษฐกิจต่างๆ เหมือนกัน และจะหาแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหาให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อช่วยให้เศรษฐกิจเติบโตได้ในระดับที่เหมาะสม และเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงินของประเทศดำรงอยู่ได้ ส่วนเรื่องค่าเงินบาทแข็งที่เอกชนกังวลนั้น ยืนยันว่า ธปท.มุ่งรักษาเสถียรภาพของค่าเงินบาทให้สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจ และไม่ให้ผันผวนมากจนส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจ พร้อมเดินหน้าทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อบรรเทาผลกระทบ ตลอดจนผลักดันมาตรการต่างๆ เพื่อสนับสนุนให้เศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างยั่งยืน



 



 #สภาอุตสาหกรรม 



 #ผู้ว่าธปท



Cr:สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย 

ข่าวทั้งหมด

X