UN ผลักดันการแจ้งเตือนภัยพิบัติทั่วโลก ขณะที่สภาพอากาศเลวร้ายมีแนวโน้มเพิ่มความรุนแรง

วันนี้, 01:28น.


          องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) แห่งสหประชาชาติเผยแพร่รายงานฉบับใหม่ ระบุว่า อันตรายที่เกี่ยวข้องกับสภาพภูมิอากาศเป็นสาเหตุให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วกว่า 2 ล้านคนในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา โดยร้อยละ 90 อยู่ในประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งเกือบครึ่งหนึ่งของประเทศเหล่านี้ ไม่มีระบบเตือนภัยล่วงหน้า จึงเรียกร้องให้เพิ่มการติดตามและพยากรณ์อากาศทั่วโลก เพราะคำเตือนที่ทันท่วงทีมีความสำคัญต่อการช่วยชีวิตผู้คน รายงานระบุว่า สภาพอากาศรุนแรงมีแนวโน้มเพิ่มความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ การที่ประชาชนหลายล้านคนตกอยู่ในความเสี่ยง ยังส่งผลกระทบต่อทรัพย์สินทางเศรษฐกิจและโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ



          ขณะเดียวกัน การทำงานเพื่อติดตามตรวจสอบสภาพอากาศในช่วงทศวรรษที่ผ่านมามีความก้าวหน้าอย่างมาก จำนวนประเทศที่ใช้ระบบเตือนภัยล่วงหน้าหลายรูปแบบเพิ่มขึ้นจาก 52 ประเทศ เป็นอย่างน้อย 108 ประเทศ แม้ว่า 62 ประเทศในกลุ่มนี้มีขีดความสามารถขั้นพื้นฐาน





          นางเซเลสเต เซาโล เลขาธิการ องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก แห่งสหประชาชาติ กล่าวสุนทรพจน์เปิดการประชุมใหญ่วิสามัญประจำปีที่นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ ว่า การเตือนภัยล่วงหน้าหมายถึงการดำเนินการแต่เนิ่นๆ ซึ่งไม่ได้มีความหมายเพียงแค่การเตือนโลกเท่านั้น แต่ยังเป็นการเสริมพลังให้กับโลกด้วย



          การประชุมในครั้งนี้มีผู้แทนจากประเทศสมาชิก 193 ประเทศเข้าร่วมการประชุม เพื่อเร่งรัดและขยายโครงการเตือนภัยล่วงหน้าสำหรับทุกคนทั่วโลก ซึ่งเปิดตัวโดยนายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ ในปี 2565 โดยมีเป้าหมายให้ครอบคลุมทั่วโลกภายในสิ้นปี 2570 การประชุมในปีนี้ยังจัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 75 ปีขององค์การ ในฐานะหน่วยงานเฉพาะกิจของสหประชาชาติด้านสภาพอากาศ และน้ำ



...



#ภาวะโลกร้อน



#องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก



#สหประชาชาติ

ข่าวทั้งหมด

X