นักวิจัยข้อมูลป่าในควีนส์แลนด์ ออสเตรเลีย เผยแพร่บทความในวารสารวิทยาศาสตร์ Nature ระบุว่า ป่าฝนเขตร้อนของออสเตรเลียกลายเป็นป่าฝนแห่งแรกในโลกที่ปล่อยคาร์บอนมากกว่าที่ดูดซับ ซึ่งเป็นแนวโน้มที่เชื่อมโยงกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว ป่าฝนจะเป็นแหล่งดูดซับคาร์บอนได้มากกว่าที่ปล่อยออกมา และมีต้นไม้ใหม่ๆ เข้ามาชดเชยต้นไม้ที่ตายไปอย่างต่อเนื่อง
ดร. ฮันนาห์ คาร์ล จากมหาวิทยาลัยเวสเทิร์นซิดนีย์ ผู้เขียนหลักของการศึกษาวิจัย ระบุว่า ผลการค้นพบในครั้งนี้ มีความสำคัญอย่างมากต่อเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลก ซึ่งส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับความสามารถของระบบนิเวศในการดูดซับคาร์บอน เมื่อมีต้นไม้ใหม่น้อยลง ลำต้นและกิ่งก้านของต้นไม้ที่ตายแล้ว ก็จะกลายเป็นตัวปล่อยคาร์บอนแทนที่จะเป็นตัวดูดซับคาร์บอน ที่สำคัญคือจำนวนต้นไม้ที่ตายในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เช่น อุณหภูมิที่รุนแรงขึ้น บรรยากาศแห้งแล้ง และภัยแล้ง
ผู้วิจัยยังแสดงความกังวลว่า มีแนวโน้มสูงที่ป่าในเขตร้อนทั้งหมดจะตอบสนองในลักษณะเดียวกัน แต่จะต้องมีข้อมูลและการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อให้การประเมินมีความชัดเจน
ออสเตรเลีย เป็นประเทศที่มีมลพิษต่อหัวมากที่สุดในโลก ประกาศเป้าหมายการลดคาร์บอนใหม่ เมื่อเร็วๆ นี้ พร้อมทั้งให้คำมั่นว่าจะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนลงอย่างน้อยร้อยละ 62 เมื่อเทียบกับระดับในปี 2548 ในอีกทศวรรษหน้า
เมื่อเดือนที่แล้ว (ก.ย.68) ยังมีรายงานฉบับใหม่เกี่ยวกับผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศพบว่าประเทศออสเตรเลียมีอุณหภูมิเพิ่มขึ้นเกิน 1.5 องศาเซลเซียสแล้ว และไม่มีชุมชนใดที่จะรอดพ้นจากความเสี่ยงด้านสภาพภูมิอากาศ
....
#ภาวะโลกร้อน
#ป่าฝนเขตร้อน
#ออสเตรเลีย